Monday, June 19, 2006

..โกรธคือโง่ โมโห คือบ้า..

หลายเดือนก่อนที่แผนกดิฉันรับคนไข้ผู้ชายมาคนหนึ่งค่ะ

ปกติแล้วแผนกที่ดิฉันดูแลอยู่เนี่ย มีแต่คนไข้ผู้หญิง เนื่องจากที่แผนกมีห้อง VIP ว่างอยู่ คนไข้คนนี้เลยได้มาอยู่ที่นี่ เป็นกรณีพิเศษ

คนไข้คนนี้ เกษียณอายุจากงานแล้ว แต่เดิมเคยทำงานระดับผู้บริหารจากองค์กรใหญ่แห่งหนึ่ง ปกติแล้วจะเป็นคนเจ้าระเบียบ ค่อยข้างจุกจิกจู้จี้ขี้หงุดงหิดและมักจะ ค้นหาข้อบกพร่องของคนอื่นอยู่ร่ำไป ญาติๆของคนไข้จะเข้าใจค่ะ เพราะได้สัมผัสคนไข้คนนี้เป็นประจำ เป็นนิสัยประจำตัวอยู่แล้ว ไม่ใช่เพิ่งมาเป็นตอนที่เข้ารับการรักษาอยู่ในโรงพยาบาล

เวลาใครจะเข้าไปดูแลคนไข้คนนี้ จะต้องเตรียมตัวให้พร้อม พร้อมแล้วพร้อมอีก บางคนถึงขนาดเกร็ง ไม่กล้าเข้าใกล้ โปรดนึกภาพเอาเองนะคะว่า เวลาสุนัขดุๆ น่ะ เราก็ไม่กล้าเดินเข้าไปใกล้ เหมือนกันเลยค่ะ

ดิฉันเองก็เหมือนกัน เรื่องเล็กๆน้อยๆของหลายๆคน ดิฉันมักจะไม่ค่อยมองข้าม จะว่าเป็นคุณนายละเอียดก็ไม่เชิง เพราะไม่ได้ละเอียดไปทุกเรื่อง ดิฉันมักจะทนพฤติกรรมที่มนุษย์บางคนสร้างความเดือดร้อนให้กับคนอีกหลายคนไม่ได้ หรือไม่ก็ทนไม่ได้กับพฤติกรรมที่เห็นแก่ตัว และมักง่ายของคนไม่ได้อีกเหมือนกัน

แทบทุกครั้งเวลานั่งหลังพวงมาลัยรถ หลายเหตุการณ์มักจะทำให้ดิฉันหงุดหงิดได้เสมอ บ่อยครั้งที่ขับรถไปและนั่งสนทนากับคนข้างๆอย่างอารมณ์ดี แต่พอมีเหตุการณ์ที่รถคันอื่นมาทำให้หงุดหงิดละก้อ อารมณ์ดิฉันเปลี่ยนทุกครั้ง จากอารมณ์ดีก็กลับอารมณ์เสีย บ่อยครั้งก็มาลงกับรถ แทนที่จะขับรถดีๆ พฤติกรรมการขับรถก็กลายเป็นกระชากบ้าง เบรคกระทันหันบ้าง หรือไม่ก็ขับไล่คนที่มาทำให้เราหงุดหงิดก็มี

คิดดูแล้ว พฤติกรรมของเราก็อันตรายเหมือนกัน อาจจะก่อให้เกิดอันตรายแก่ตัวเองและต่อผู้อื่นด้วยซ้ำ คนขี้หงุดหงิดนี่ ไม่มีใครที่อยากอยู่ใกล้เลยนะคะ ตัวอย่างคนไข้ที่เล่ามา ดิฉันเองก็ไม่อยากอยู่ใกล้ แล้วพฤติกรรม และอารมณ์ของดิฉัน อย่างที่เล่าให้ฟังก็คงไม่มีใครที่อยากอยู่ใกล้เหมือนกัน

นั่งอ่านเรื่องสมาธิของสมาชิก MBlog คนหนึ่งเมื่อสักครู่ที่ผ่านมา ทำให้นึกถึงครั้งที่ตัวเองฝึกทำสมาธิ เชื่อไหมคะว่าสิ่งที่ตั้งใจไว้ ทำไม่สำเร็จ ยากค่ะ ถ้าหากทำได้ ใจเราคงเย็นลงมาก “โกรธคือโง่ โมโหคือบ้า” สิ่งนี้ก็ท่องอยู่ในใจเหมือนกัน แต่พอเกิดสถานการณ์หลายๆอย่างแบบที่เล่ามา สติมันก็แตกค่ะ บ้าทุกทีสิน่า (โชคดีอยู่นิดนึงที่ดิฉันเป็นคนโกรธง่าย หายเร็ว ) น่าสงสารคนที่อยู่ใกล้ๆเหมือนกันนะคะ นี่ถ้าหงุดหงิดมากขึ้นๆ คงไม่มีใครอยากอยู่ใกล้อีกแน่ๆ

สองสามวันก่อนสิวขึ้นอีกแล้ว บ่อยครั้งที่มือบอน ทนไม่ค่อยได้กับสิ่งที่เห็นบนใบหน้าของเรา และมักจะกดเอง หรือไม่ก็ให้หมอกดออกให้ ไปๆมาๆ บริเวณนั้นก็เป็นรอยดำจนได้ กว่าจะหายก็ต้องใช้เวลาพอสมควร แต่ครั้งนี้ ลองไม่สนใจสิวเม็ดนั้น ไม่กี่วันสิวก็ยุบลงไปเอง ไม่มีตำหนิให้เห็นด้วย

ลองมาเทียบเรื่องสิวกับพฤติกรรมของตัวเอง ถ้าเราไม่ใส่ใจเรื่องเล็กๆน้อยๆ ไม่เก็บมาเป็นอารมณ์ เหมือนเราไม่ใส่ใจสิวบนใบหน้าของเรา อารมณ์เราก็จะไม่ขุ่นมัว คนข้างๆ หรือคนรอบตัวเราก็คงอยากอยู่ใกล้เรามากขึ้น

ขอย้ำอีกนิดว่า “ โกรธคือโง่ โมโห คือบ้า ”


คงไม่มีใครอยากอยู่ใกล้คนบ้านะคะ


(ภาพ : Afternoon On The Hill โดย Curran Charles Courtney )

4 Comments:

At 7:56 AM, Blogger someone said...

555!! คงจะไม่มีใคอยากอยู่ใกล้คนบ้าหรอกน่า แต่ถ้าคนบ้าน่ารักและไม่กัดก็ไม่แน่ อิอิ !! อ่ะ ล้อเล่น
พ่อเราเป็นคนที่อารมณ์เสียง่ายตอนขับรถเหมือนกัน ถ้าคันอื่นขับกวนก็จะคงจะได้บรรยากาศแบบในรถคุณเมย์แน่เลย เราก็บอกพ่อว่า "ไอ้คันนั้นน่ะมันไปแล้วและก็คงไม่ได้สนใจด้วยว่าคนในรถคันนี้น่ะ หัวเสียและหงุดหงิดแค่ไหน เหลือแต่คนที่นั่งข้างๆ ฟังเสียหูแฉะอยู่เนี่ย" แล้วพ่อก็ขับรถเบาลง :-) สุขสันต์วันใหม่จ๊ะ

 
At 10:29 AM, Blogger PaTTaMONE said...

สวัสดีค่ะ..พี่เมย์
หนูไม่ได้เข้ามาอ่านบลอคพี่เมย์นานหลายวัน..
นั้นเป็นเพราะ..ตอนนี้และอีก หกเดือนต่อไป..ห้องหนูไม่มีอินเตอร์เนตให้ใช้แล้ว..เสียใจจริงๆ..

ขอบคุณพี่เมย์ ที่เข้าไปอ่านบลอคหนูนะคะ..

สำหรับเรื่องขับรถ..หุหุ..ตอนนี้ยังเป็นมือใหม่หัดขับ..อาจจะทำให้เซียนหลายคน..ได้อารมณ์เสียกันบ้าง..แน่นอนเลย..แฮะๆ..

เรื่องขับรถ..แล้ว..อารมณ์เสีย..เท่าที่สังเกตหนูพบว่า..เป็นกันเกือบทุกคนเลยค่ะ..ยิ่งถ้าผู้ชาย..จะสบถกันได้ถึงใจ..คนนั่งบนรถต้องพลอยอารมณ์เสีย..ไปด้วย..

อันนี้พูดยากค่ะ..

อย่างเดียวที่ทำได้คือ..ต้องรณรงค์ให้ทุกคน ขับขี่ตามกฏจราจร..ขับขี่ปลอดภัย และมีน้ำใจ..ให้กับเพื่อนร่วมถนน.. ^_^

ถ้าทำได้..ทุกคนจะขับรถด้วยความเบิกบานใจ..

 
At 12:27 AM, Blogger hospitalgirl said...

จริงๆเลยค่ะคุณ someone..เวลาคนขับรถบ่นหรือสบถเนี่ย คนที่ได้ยินก็คือคนที่นั่งในรถแหละ คนที่ถูกด่าไม่ได้ยิน..5 5 5 เมย์ก็เคยรำคาญหูตอนที่ป่าป๊า หรือหม่าม๊า สบถว่ารถคันอื่น ตอนเมย์เด็กๆ..กงกรรมกงเกวียนจริงๆ

 
At 12:28 AM, Blogger hospitalgirl said...

เราบอกคนอื่นยาก แต่เราทำได้ เนาะน้องปัทม์เนาะ..จริงๆต้องบังคับตัวเอง ให้ใจเย็นๆ (แต่อย่าเย็นจนขับรถเกะกะ ขวางถนนล่ะ)..แต่ท่าทางของพี่น่ะ คงต้องฝึกฝนเยอะจ้ะ ไม้แก่ดัดยากด้วย เอิ้กๆๆ

 

Post a Comment

<< Home