..ครอบครัวรักคุณ..
ขอเล่าเรื่องความรักอีกสักครั้งเถอะค่ะ ..
ครั้งนี้มาเล่าเรื่องความรักที่ขมขื่นดีกว่า หลังจากที่เคยเล่าเรื่องรักโรแมนติคหวานแหววไปหลายหนแล้ว
ผ่านร้อนผ่านหนาวมาพอสมควร เป็นที่รู้ๆอยู่ว่าอายุปูนนี้ ย่อมมีเรื่องอกหักเข้ามาในชีวิตอยู่แล้ว ไม่ใช่หนเดียวด้วย หลายหนเหมือนกัน นับแต่เราอกหักจากชาวบ้านนะคะ สำหรับเรื่องที่ชาวบ้านอกหักจากเรา เราก็ไม่ใส่ใจ เพราะต่างคนก็ควรจะรับผิดชอบชีวิตของตัวเอง จริงมั้ยคะ เกิดมาคนเดียวนี่นา ไม่ได้เกิดมาด้วยกัน พูดอย่างนี้เหมือนคนใจดำเลยนะคะ แต่จริงๆดิฉันไม่ใช่คนใจไม้ไส้ระกำหรอก เพียงแต่เป็นคนที่ไม่ให้ความหวังใคร ไม่ใช่ก็คือไม่ใช่ ไม่ใช่คบแล้วรอที่จะสลัดเพื่อไปหาคนที่ดีกว่า
เวรกรรม!! ว่าจะเล่าเรื่องรักรันทดของตัวเอง ไหงกลายเป็นแขวะคนอื่นเขาไปได้ ไม่ดีค่ะไม่ดี เอาเป็นว่า วกเข้าประเด็นที่อยากเล่าดีกว่านะคะ
เมื่อประมาณ 6-7ปีก่อน ดิฉันมีแฟนคนหนึ่ง เราคบกันได้ประมาณ ปีกว่า ตอนนั้นอายุประมาณ 28-29 นี่แหละ จะว่าเด็กก็ ไม่ใช่ อายุขนาดนั้นบางคนมีความคิดที่เป็นผู้ใหญ่เต็มตัวด้วยซ้ำ แต่อาจเป็นเพราะดิฉันถูกเลี้ยงให้เป็นเด็ก ยังอยู่ในอ้อมอกพ่อแม่เสมอ เลยไม่ค่อยมีความเป็นผู้ใหญ่เท่าไร แน่นอน คนที่มีความเป็นเด็กสูงมักต้องการการเอาอกเอาใจ ซึ่งบางทีมันก็มากเกินไป พอมารู้ตัวมันก็สายไปเสียแล้ว ไม่มีใครที่ทนได้เหมือนพ่อแม่พี่น้องเราหรอกค่ะ
เมื่อมีปัญหาทางใจ อาการมันก็ออกมาทางกาย อย่างที่ทราบดี นั่นคือใจเป็นนาย กายเป็นบ่าว เมื่อใจมันป่วย กายมันก็ต้องป่วยด้วย งานการไม่ต้องทำกันเลย นอนไม่หลับ เวียนหัว คิดมาก โรคอะไรก็เป็นไปหมด กระเพาะก็ถามหา ข้าวปลาก็ไม่ต้องรับประทานกัน
ดิฉันใช้ชีวิตอยู่ที่หอพักของโรงพยาบาลเป็นส่วนใหญ่ค่ะ จำได้ว่าคืนหนึ่งรูมเมทไม่อยู่ ดิฉันเดินเป็นเสือติดจั่นอยู่ในห้อง หลังจากนั้นรู้สึกว่าตัวเองอยู่คนเดียวไม่ได้แน่ๆ เลยเรียกน้องสาวมารับกลับบ้าน ไม่กี่นาทีน้องก็มาถึง รับกลับบ้านดึกคืนนั้นเลย ดิฉันนอนร้องไห้ สะอึกสะอื้นทั้งคืน นอนกับแม่ทั้งพ่อทั้งแม่ปลอบใจ แต่พ่อจะเป็นคนที่ให้สติมากกว่า จำได้ว่า พ่อบอกว่า "อ่อนแอแบบนี้แล้วจะมีชีวิตอยู่ต่อไปได้อย่างไร?"
แต่ตอนนั้น ยังค่ะ ยังไม่ดีขึ้น สองสามวันหลังจากนั้นก็อาการออกอีก จากการที่รับประทานอาหารไม่ค่อยลง (หลายคนคงมีประสบการณ์ว่าอกหักแล้วกินข้าวไม่ลงนั้นอาการเป็นยังไง? อิอิ) คราวนี้ถึงขั้นล้มหมอนนอนเสื่อเลยค่ะ เป็นไงล่ะคะ นอนให้น้ำเกลือไป 3-4วัน ซมเลย คนที่ทำให้เราอกหักก็ไม่ได้เข้ามาดูดำดูดีหรอกค่ะ คนที่ทุกข์ก็คือตัวเราเอง เสียงานเสียการ จำได้ว่าช่วงนั้นหยุดงานเป็นอาทิตย์เลย เดือดร้อนเพื่อนร่วมงาน ต้องมาทำงานแทนอีก ทุกข์ของชาวบ้านด้วย ดูสิ!!
หลังจากที่ออกจากโรงพยาบาล คืนนั้น ก็ชวนน้องไปท่องราตรีอีก ช่วงนั้นเที่ยวประชดชีวิตเลยค่ะ เมาหัวราน้ำ ( ดื่มค็อกเทลก็เมาได้นะคะ) เชื่อไหมว่า ตอนนั้นกระแสละตินมาแรง ดิฉันไปเที่ยวละตินผับจนคุ้นกับพวกแดนเซอร์ บางคืนผับปิดแล้วยังชวนกันกับน้องสาวขับรถไปดูพระอาทิตย์ขึ้นที่พัทยากันต่อ เคยมีหนหนึ่ง น้องไปใส่บาตรที่ตลาดพัทยาต่อได้เลย และขับรถกลับบ้านตอนรุ่งเช้าหลังจากพระอาทิตย์พ้นขอบฟ้าขึ้นมาแล้ว โชคดีที่พวกเราไม่ได้ ไปรู้จักใครใหม่สุ่มสี่สุ่มห้าในสถานบันเทิงดังกล่าว ระวังตัวค่ะเพราะคิดว่าอันตรายมากเหมือนกัน ที่จำเป็นต้องกลับเพราะที่บ้านโทรศัพท์ตามตัวด้วยความเป็นห่วง
ช่วงที่ดิฉันออกจากโรงพยาบาล ได้ยามาประมาณ 11 ชนิดเรียกว่ารับประทานแทนข้าวได้เลย ตอนนั้นคุณย่า (สมัยที่ท่านยังมีชีวิตอยู่) เห็น ท่านถามถึงเหตุผลที่ใช้ยาเยอะแยะ มากมายถึงขนาดนั้น ด้วยความเป็นห่วง ท่านจับตาดูดิฉันแทบทุกฝีก้าว ขนาดที่ดิฉันเข้าครัวท่านยังตามเข้าไปคุยด้วย ทั้งคุณอา น้องสาว ไม่มีใครที่ไม่ห่วงดิฉัน จำคำพูดคำหนึ่งที่คุณอาบอก ท่านบอกว่า “คิดอะไรอย่าคิดเอง ให้คนอื่นช่วยคิด เพราะคิดเองมันจะวนอยู่และหาทางออกไม่ได้” (คนอื่นที่ให้ช่วยคิดนี่ ไม่ได้หมายความว่าให้พากันหลงทางนะคะ)
ย้อนมองกลับไปยังวันนั้น ดิฉันสามารถจะยิ้มให้กับเหตุการณ์เหล่านั้นได้ ทั้งนี้อยู่ที่ใจของตัวเองด้วยค่ะ อาศัยเวลาและใจที่เข้มแข็ง ความรักที่ผิดหวังนั้น ขอให้เป็นวัคซีนที่จะป้องกันเราสำหรับความรักในครั้งต่อไป เป็นบทเรียนเพื่อจะสอนเราให้มีความรักครั้งใหม่ที่สวยสดงดงาม เราสร้างได้ด้วยมือเรานะคะ
ดิฉันว่า เมื่อเราเป็นทุกข์ เราอาจจะคิดว่าเราทุกข์คนเดียว เหมือนเราอยู่ในโลกคนเดียว จมอยู่กับความทุกข์ แต่คนที่ทุกข์กับเราด้วยคือทุกคนที่อยู่ในครอบครัวเราค่ะ หลายครั้งแล้วที่ดิฉันพร่ำให้สถาบันครอบครัวหันมาสนใจเด็ก แต่คราวนี้ อยากจะให้เด็กๆ หันกลับมาหาครอบครัวบ้าง
อย่าลืมว่า คนในครอบครัว รักคุณนะคะ ..
( ภาพ : Summer Memories โดย Pollera Daniel )
20 Comments:
เข้ามาอ่านแล้วค่ะ..แต่ยังคิดไม่ออก..ว่าจะให้ความเห็นว่าอะไรดี..ขอเก็บตัว..ไปคิดก่อนคะ ^_^
^_________^
:-) จ๊ะ ครอบครัวอบอุ่นแล้ว ก็ไม่รู้จะไปหาความอบอุ่นที่อื่นอีกทำไมเนอะ
..อกหักเพียงครั้งยังไม่ตาย ..เป็นแค่วัคซีนที่ทำให้เราไม่เป็นอีกเท่านั้นเอง ใช่ป่ะคุณเมย์ ขอให้มีสติให้ผ่านช่วงเวลาอันตรายของชีวิตให้ได้ก็พอเนอะ
สุขสันต์วันศุกร์จ๊ะ ..อีกวันเดียวก็หยุดแล้ว ^__^
น้องปัทม์คะ ยังไม่ต้องคิดอะไรตอนนี้ค่ะ อ่านแล้วค่อยๆไตร่ตรอง..ดีกว่า..พี่เล่าประสบการณ์ชีวิตให้ฟังจ้ะ..เผื่อเด็กๆ เอาไปอ่าน ..คิดว่าน่าจะมีประโยชน์กับเด็กๆได้บ้างนะคะ :)
คุณ anonymous...ขอบคุณสำหรับรอยยิ้ม ที่สดใสในเช้าวันนี้..ทำงานด้วยใจที่เป็นสุขนะคะ // see you :)
สุขสันต์วันศุกร์ค่ะคุณ someone...เขียนเรื่องนี้ขึ้นมาเพื่ออยากให้คิดถึงสถาบันครอบครัวค่ะ...เดี๋ยวนี้เห็นเด็กๆ ไม่ค่อยให้ความสำคัญกับพ่อแม่ หรือญาติพี่น้องที่บ้านนัก เวลามีปัญหา บ่อยครั้งที่จะนำมาเล่าให้เพื่อนในอินเตอร์เน็ตฟังมากกว่า เจอคนดีก็ดีไป แต่เจอไม่ดีนี่สิน่ากลัวค่ะ เมย์ว่า ยังไงก็อยากให้หันกลับไปหาครอบครัวกันบ้าง :)// เที่ยวหัวหินให้สนุกนะคะ เมย์ก็ว่าจะไปเหมือนกัน แต่ยังไงจะคิดอีกที
อิอิ..
ที่หนูบอกว่า..ยังไม่มีความเห็นเพราะ..
ไม่คิดว่า..ผู้หญิงน่ารักๆ อย่างพี่เมย์..จะมีใครมาหักอกได้ลงคอ..ต่างหากละค่ะ..
ก็เลย..ไม่รู้ว่าจะเขียนอะไร
..
ใช่แล้วค่ะ..ครอบครัวรักเราที่สุด..รักมากๆ ด้วย..
หนูกะพี่เมย์คิดเหมือนกันเลยค่ะ..เรื่องเกิดมาคนเดียว..
..
สำหรับหนู..บางครั้ง..หนูไม่ได้รู้สึกว่า..อยากจะมีคู่ครอง..ไม่ได้อยากเป็นภรรยา..ไม่ได้อยากมีสามี..แต่ก็ต้องยอมรับว่า..อยากมีเพื่อน..อยากมีใครสักคน..ที่รักและเข้าใจเรา..แต่เค้าไม่จำเป็นต้องเป็น..คู่ครองเรา..เราเป็นเพื่อนกันได้มั้ยค่ะ..
..
ตอนหนูอกหัก..(หนูบอกเลิกเค้า..แล้วเสียใจเอง)..หนูก็เคยรู้สึกอยากทำแบบนั้นค่ะ..แต่หนูไม่ทำ..หนูเอาความเครียด..ความเศร้า..ไประบายกับการออกกำลังกายแทน..เพราะพอเราเหนื่อย..เราก็จะหลับ..
ตื่นมา..วันใหม่..ถ้ายังเศร้าอีก..ก็ไปออกกำลังกาย..ให้เหนื่อยไปเลย..
พี่เมย์ลองดูนะคะ..เวลามีอะไรไม่สบายใจ..ออกกำลังกายช่วยได้นะคะ..
..
ด้วยรักและเป็นห่วงค่ะ
สุขสันต์วันศุกร์ทุกคนค่ะ..^__^
..
สวัสดีคุณ anonymous ค่ะ..
ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ..>.<
..
พี่ someone ค่ะ หนูดีใจมากเลย..ที่พี่ไปเยี่ยมบ้านหนู..ขอบคุณค่ะ..อิอิ..>_<
..
น้องปัทม์คะ..ดีใจที่น้องปัทม์เป็นเด็กดีค่ะ..พี่อยากให้บ้านเรามีเด็กดีแบบน้องปัทม์นี่แหละค่ะ หลายคนเชื่อเพื่อนมากกว่าพ่อแม่ มีเพื่อนดีก็ดีไป แต่ถ้าพบเพื่อนที่ไม่ดีก็พากันแย่..เดี๋ยวนี้โลกเราไปไกลด้วยยิ่งสังคมแบบอินเตอร์เน็ตยิ่งน่ากลัวค่ะ วัยที่เรียกว่าวัยใสนี่ยิ่งถูกชักจูงง่ายค่ะ..หลายคนไม่รู้จักยั้งคิดและหลายคนก็มักจะฉวยโอกาสตอนที่คนกำลังมีจิตใจอ่อนแอ //สำหรับพี่ ผ่านวัยนั้นมาแล้ว...เลยเอามาเล่าให้ฟังค่ะ..ตอนนี้ ไม่ได้เป็นอย่างนั้นแล้วนี่ มองโลกแบบผู้หใญ่มองแล้วมั้งคะ...อีกอย่างมีคนดีๆ อยู่ข้างๆ ก็มีผลดีต่อชีวิตเรามากๆด้วยแหละค่ะ ...ตอนนี้บอกให้ออกกำลังกายพี่ก็ไม่มีเวลาแล้วก็แรงแล้วล่ะค่ะ 5 5 5
นั่นน่ะสินะ กลายเป็นว่าเรามีความสนิทสนมกับโลกไซเบอร์มากกว่าครอบครัวซะแล้ว ..ผู้ใหญ่บอกไว้ว่าทำอะไรต้องมีสติ ..มีสติติดตัวไว้ตลอดเวลานะจำไว้ (บอกตัวเองจ๊ะ อิอิ)
ท่าทางจะไม่ได้ไปเสียแล้วคุณเมย์ สงสัยเป็นหวัดอีกแล้ว แง แง ..ปวดเมื่อยเนื้อตัว เจ็บคอ ตั้งแต่เมื่อวานแล้ว กินยาแล้วก็ยังไม่ดีขึ้นเลย ว่าจะไปเย็นนี้นะเนี่ย ...
น้องปัทม์ ^__^ ดีจ๊ะ ออกกำลังกายเป็นประโยชน์ต่อร่างกายและจิตใจ พี่ก็คิดว่าทั้งเป็นคนทิ้งและถูกทิ้งก็เสียใจทั้งนั้นแหละจ๊ะ พี่ก็เจอมาทั้งสองแบบ เสียใจน่ะใช่ แต่เราก็มีหน้าที่ของชีวิตอื่นๆ ที่ต้องทำอยู่..ร้องไห้ได้แต่ก็หยุดร้องให้เร็วที่สุดนะจ๊ะ
ตอนนี้พี่กำลังซ่อมจักรยานอยู่ ว่าจะทำสีใหม่ให้ไฉไลซะหน่อย ก่อนเอาออกซิ่งไปศูนย์กีฬาใกล้บ้าน..ป่ะไปด้วยกัน :-)
ใช่แล้วค่ะคุณ someone เมย์ก็ยอมรับว่าใช้เวลาให้กับตัวอักษรมากเหมือนกัน (ช่วงหลังเลยชอบทำตัวเป็นคนพิสูจน์อักษร แต่ตัวเอง ก็มักจะพิมพ์ผิดอยู่เสมอๆ อิอิ) ...เอาเป็นว่าช่วยๆกันเตอนสติ ให้เราเห็นความสำคัญของคนที่เราควรจะให้ความสำคัญกันดีกว่านะคะ :) // อดไปหัวหิน น่าเสียดาย..เดี๋ยวถ้าเมย์มีโอกาสไปจะเที่ยวเผื่อนะคะ อิอิอิ/// เรื่องนี้ เอาไปเขียนที่บล็อคโน้น แล้วแล้วโดนว่า "ใจแคบค่ะ" คงจริงๆเลย ..เห็นรึยังคะ คคห.ที่1 น่ะ..อ่านแล้ว ขำดีนะคะ คุณ someone คนเรามักจะตัดสินคนจากความรู้สึกของตัวเองจริงๆ..ให้ตายเหอะ
นานาจิตตังจ๊ะ... บางทีเขาอาจจะอ่านแบบผ่านๆ ไป บางช่วงบางตอนอาจจะไปกระทบใจเข้าละมั้ง... คนก็คือคน มีมากมาย หลากหลาย มาอยู่รวมกัน ยิ่งมากคนก็ยิ่งมากความ..ถึงได้ชอบที่นี่มากกว่า :-)
จริงๆที่นี่เงียบสงบดีนะคะ คุยได้ได้มากกว่าบล็อคโน้น..เห็นด้วย กับมากคนก็มากความ...เคยเห็นหน้าหนึ่งผู้จัดการค่ะ โต้กัน ด่าว่ากันซะน่ากลัวเลย...แต่ที่ MBlog บางช่วงก็ใช่ย่อย (หมายถึงเมย์นะคะ เอิ๊กๆๆๆๆ..ใครมายังไงก็ไปอย่างงั้น ฮี่ๆๆๆๆ ;p)
มาทักทายนิดนึงครับ ไม่กล้าอยู่นานกลัวโดนโรคติดต่อ (อกหัก) 55555 ตอนนี้ก็จะเอาตัวไม่รอดแล้ววว
พี่ว่าปัทม์ไปแคลิฟอร์เนียฟิตเนสเลยแน่ๆ มันเยอะมาก .. ถ้าอกหักต้องไปแน่ๆ ออกกำลังกายให้สลบไปเลย ไว้ไปด้วยกันนะน้อง.. ^______________^
คุณ lonelyheart กะจะทำสถิติอกหักเหรอคะ เอาซักกี่ปีดี ..จะได้บันทึกเป็นสถิติ...อิอิ ล้อเล่นค่ะ (จริงๆเมย์ไม่เชื่อหรอก เพราะ สาวญี่ปุ่นน่ารักจะตาย บรรยากาศที่นั่นก็น่าจะดี...เหอ เหอ เหอ คุณ lonelyheart ขี้โม้ )...
อ้าวว มาว่าผมโม้เฉยยย คุณเมย์นี่
ถึงแม้ที่นี่สาวจะน่ารัก บรรยากาศดี แต่ผมก็ชอบสาวไทยครับ เพราะมีความอ่อนหวาน น่ารักกว่าเยอะ แต่ไม่อยากที่จะอกหัก 555 กลับไปตายรังที่บ้านเราดีกว่า...
อ้อ สาวๆ ที่นี่กินเบียร์ สูบบุหรี่กันซะมากครับ ม่ายหวายยย รับไม่ได้จริงๆ
>ขอบคุณพี่เมย์..ที่เชื่อว่าหนูเป็นเด็กดีค่ะ..ดีใจจังเลย..
>เสียดายแทนเลย...พี่ someone อดไปเที่ยว..
แต่ไม่เป็นไร..วันข้างหน้ายังมี..^_^
>พี่ anonymous แหม...ฟิตเนสก็มีไปบ้างค่ะ..อิอิ..กลายเป็นว่า ช่วงอกหัก..ใจไม่ดี..แต่สุขภาพดีค่ะ..เอิ้กๆ...แต่ช่วงมีความสุข..สุขภาพจะแย่ค่ะ..อิอิ..
>พี่ lonelyheart ค่ะ..เค้าเลิกอกหักกันแล้วค่ะ..แต่จะว่าไป..เค้าว่ากันว่า..อกหักดีกว่ารักไม่เป็นน่ะคะ..แต่ช่วงอกหัก..บอกตัวเองว่า "รักไม่เป็นยังจะดีซะกว่า.."
รักที่นี้ค่ะ..อบอุ่นดี..
แต่ตอนนี้หนู..ต้องไปแล้วค่ะ..
ไว้หนูจะเข้ามาใหม่นะคะ..
คิดถึง...พี่ๆ ทุกคนค่ะ...
อิอิอิ คุณ lonelyheart คะ..สาวไทยที่โน่นไม่มีบ้างก๊ะ? ..เดี๋ยวนี้ยุคสมัยเปลี่ยนไป เมย์ว่า สาวที่ไหนก็เหมือนกันนะคะ ตาดีได้ ตาร้ายเสีย ฮี่ๆๆๆ
น้องปัทม์..ไปไหนเอ่ย? 5 5 5 ท่าทางจะง่วงนอนใช่มั้ยล่า เอิ้กๆๆ // พี่ว่าพี่ someone น่ะ ไม่ได้ไป jazz festival ..ดีแล้วล่ะค่ะ เพราะ เหมือนงานวัดเลย...ไม่รู้จะไปทำไมเหมือนกัน ปีนี้จัดได้แย่ๆมากๆ
Post a Comment
<< Home