Thursday, June 15, 2006

..โต๊ะปิงปองเป็นเหตุ..


เมื่อวานนี้ดิฉันมีโอกาสไปจังหวัดที่ใกล้ๆกรุงเทพ โดยไม่ได้ตั้งใจมาก่อน ..

ด้วยเหตุที่ว่าต้องไปดูความเสียหายของโต๊ะปิงปองที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งค่ะ

คิดว่าท่านผู้อ่านต้องเกิดอาการ งง กันแน่ๆว่า ไปทำอะไรกับโต๊ะปิงปองมา หรือว่าคิดว่าดิฉันไปเล่นปิงปองจนทำให้โต๊ะของเขาเสียหาย เอาล่ะ เล่าให้อ่านดีกว่า

คืองี้ค่ะ ..เมื่อสัปดาห์ก่อน ทางโรงพยาบาลเล็กๆของรัฐแห่งหนึ่ง จัดนิทรรศการเนื่องในโอกาสฉลองสิริราชสมบัติฯ คนใกล้ตัวของดิฉัน จำเป็นต้องไปจัดบอร์ดให้ เพราะทางแผนกหนึ่งของทางโรงพยาบาลนั้นเป็นลูกค้ากันอยู่ ดังนั้นหน้าที่โดยตรง เลยต้องบริการจัดบอร์ดให้ถึงที่ (ดิฉันก็เพิ่งทราบนี่แหละค่ะ เพราะ โรงพยาบาลเอกชน ที่ดิฉันทำงานอยู่ ไม่เห็นจะต้องมีบริษัทยา หรือบริษัทจำหน่ายเครื่องมือแพทย์ไปจัดอะไรพวกนี้ให้เลย )

คุณหมอคนที่มอบหมายบอร์ดให้จัดเนี่ย ท่านเอาโต๊ะปิงปอง มาประยุกต์ให้เป็นบอร์ดค่ะ พ่อแม่พี่น้อง!! โต๊ะปิงปองสีน้ำเงินนี่แหละ พอพับลงมามันก็ดูเหมือนกระดานที่คุณครูใช้สอนเราสมัยเราเป็นเด็กนี่แหละค่ะ ตอนนั้นพวกเราก็งงเหมือนกันว่าทำไมเอาโต๊ะปิงปองมาให้จัด ทั้งๆที่มี white board ยาวๆ แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจ เขาให้จัดอันไหน ก็จัดไป ทำงานของเราให้มันเรียบร้อย อ้อ!!วันที่ไปจัดบอร์ด ดิฉันเป็นคนไปช่วยจัดค่ะ ซึ่งวันนั้นก็มีเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลอยู่ด้วยอีกหนึ่งคน

อีก 4-5 วันให้หลัง พอนิทรรศการเสร็จสิ้น มีโทรศัพท์มาจากคุณหมอคนนี้ บอกว่าพวกเราไปทำให้โต๊ะปิงปองของทางโรงพยาบาลเสียหาย ต้องรับผิดชอบ เอาล่ะสิ เป็นงงสิคะ แค่จัดบอร์ด เอากระดาษกาวสองหน้าติด ทำไมดูเป็นเรื่องร้ายแรงมาก จัดก็ request ไปจัดให้ พอเสร็จสิ้น เกิดเรื่อง เราก็ต้องเป็นผู้รับผิดชอบ เรียกว่า เนื้อไม่ได้กิน หนังไม่ได้รองนั่ง แล้วยังต้องเอากระดูกมาแขวนคออีกต่างหาก

เท่านั้นแหละ เย็นวันที่ได้รับข่าว เลิกงานแล้ว พวกเราก็ต้องรีบไปที่โรงพยาบาลที่ว่านี้ทันที คิดดูสิคะ ขับรถจากอนุสาวรีย์ชัยฯ ฝ่ารถติดไปถึงถนนปิ่นเกล้า-นครชัยศรี ไปจนถึงพุทธมณฑลสาย....น่ะ ไกลขนาดไหน พอไปถึงโรงพยาบาลแห่งนี้ปรากฏว่า แผนกที่ต้องติดต่อนี้ปิดบริการแล้วค่ะ (แผนกนี้ปิด หกโมงเย็น) ไม่มีเจ้าหน้าที่อยู่เลย มีแต่ รปภ. เดินตรวจตราอยู่ หลายท่านอาจจะถามว่า ทำไมไม่โทรศัพท์มาถามก่อน เชื่อไหมคะว่า โทร.มาแล้ว ไม่มีคนรับสาย (เบอร์โทรที่ได้ ถามจาก 1133)

โชคดีที่ดิฉันใส่ uniform ออกมาเลย รปภ.ของโรงพยาบาลนั้นๆ เลยให้บริการเป็นอย่างดี พาไปดูโต๊ะปิงปองที่พวกเราเคยใช้เป็นบอร์ด พอไปเห็นสภาพแล้ว ทายสิคะว่าเป็นยังไง ? จากที่ได้รับคำร้องเรียนว่า เสียหายมาก เราเห็นแค่รอยของสีถลอกเท่านั้น คิดว่าแค่ซ่อมสี ก็ทำให้โต๊ะใหม่ขึ้นได้แล้ว มีโต๊ะปิงปอง อีกโต๊ะหนึ่งที่ผุอยู่ อยู่บริเวณที่ไม่ห่างกันมากนัก แต่โต๊ะปิงปอง ที่ผุนั้นพวกเราไม่ได้ใช้จัดค่ะ

เท่านั้นล่ะ คนใกล้ตัวของดิฉันเลยโทรศัพท์ติดต่อกับคุณหมอท่านที่โวยวาย ท่านก็คงไม่คิดว่าเราไปถึงที่โรงพยาบาลนั้นแล้ว ดูเหมือนว่าเรื่องจะคลี่คลายลงไปแล้ว เพราะในเวลาใกล้ๆกัน ก็เจรจากับผู้ดูแลครุภัณฑ์ของทางโรงพยาบาลเรียบร้อยแล้วด้วย

ตอนแรก เจ้าหน้าที่คนนั้น จะให้บริษัทเทียวไปเทียวมา ด้วยซ้ำเพื่อจัดการกับปัญหาดังกล่าว เออ!! น้ำมันแถวนั้นคงราคาถูกมั้ง เล่าต่อนะคะ..ปรากฏว่าในวันต่อมา ทีมของโรงพยาบาลนี้ทั้ง คุณหมอท่านดังกล่าว และเจ้าหน้าที่ครุภัณฑ์ ท่านนั้นไม่ยอมฟังท่าเดียว มัดมือชกว่าเราทำโต๊ะปิงปองของเขาผุ และบอกว่าท่านคงไม่มีปัญญาชดใช้ค่าเสียหายให้ทางโรงพยาบาลได้ด้วย โอ!!พระเจ้า ทำไมพวกเราต้องมาเจอกับคนประเภทนี้ด้วย

แน่นอนว่า บริษัทต้องจ่ายค่าเสียหายให้กับโรงพยาบาลนี้ บางครั้งดิฉันมานั่งคิดดูว่าในหลายๆสถานการณ์ และตามกลไกของสังคมสมัยนี้ การค้าขายมักจะมีการแบ่งประเภทของลูกค้าใครมีกำลังซื้อมากและทำตัวเป็นลูกค้าที่ดี ก็จะได้ยกระดับให้เป็นลูกค้าวี ไอ พี แต่กำลังซื้อน้อยก็จะเป็นลูกค้าอีกประเภทหนึ่ง แล้วคิดดูสิคะว่า ในสถานการณ์ดังกล่าว โรงพยาบาลเล็กๆแบบนี้ และทำตัวแบบนี้ สมควรจัดอยู่ในกลุ่มลูกค้าประเภทไหน และควรได้รับการปฏิบัติที่ดีเยี่ยมต่อไปอีกหรือไม่

เชื่อว่าคนในสังคมนี้มีประเภทนี้อยู่เยอะค่ะ แต่ ดิฉันก็ยังเชื่อนะคะว่า ใครทำยังไง เดี๋ยวผลการกระทำก็ย่อมกลับมาสนองคนๆนั้นเอง แต่งานนี้ดิฉันไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียแน่นอน เพราะไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับบริษัทนี้อยู่แล้ว แต่เห็นการกระทำของคนพวกนี้แล้ว ทนไม่ค่อยไหวค่ะ

เฮ้อ!! อยากได้โต๊ะปิงปองตัวใหม่ ก็ไม่บอกตั้งแต่แรก ..

( ภาพ : Pick Of The Little โดย Rucker Harrison )

5 Comments:

At 10:55 AM, Blogger someone said...

อืม!! คนเรามีหลากหลายประเภทจริงๆ ... แถมไม้ปิงปอง ลูกปิงปอง และเน็ทไปพร้อมเลยแล้วกัน แถมพ่นสีไว้ด้วยว่า.....บริจาคให้....
:-) ทำบุญไปเลยแล้วกันเนอะ ...สวัสดีวันทำงาน

 
At 1:43 PM, Blogger hospitalgirl said...

ทำบุญต้องทำด้วยความเต็มใจค่ะคุณ someone ถ้าทำบุญอย่างนี้คงไมได้บุญแน่ๆ (ทำไปด้วยสาปแช่งไปด้วย)

 
At 10:41 AM, Blogger PaTTaMONE said...

หุหุ..แบบนี้ก็มีด้วยแฮะ..ตลกจัง..

โตๆ กันแล้ว..เป็นหมอซะด้วย..

ทำไปได้..

 
At 10:41 AM, Blogger PaTTaMONE said...

สุขสันต์วันอังคารนะคะ..พี่ๆ.. ^_^

 
At 12:31 AM, Blogger hospitalgirl said...

นั่นสิคะน้องปัทม์..งงเหมือนกัน ในสังคมเรามีคนหลากหลายประเภทค่ะ...นับวันยิ่งใช้ชีวิตลำบากขึ้นทุกวี่ทุกวัน เฮ้อ!!

 

Post a Comment

<< Home