Wednesday, May 24, 2006

..ธรรมชาติรับได้เท่าที่จะรับ..

ไม่น่าเชื่อว่าน้ำจะท่วมหนักขนาดนี้ ..

ตั้งแต่เล็กจนโต จำความได้ว่าที่บ้านไม่เคยประสบภัยจากน้ำท่วมเลย แปลกใจเหมือนกันว่า ปีสองปีที่ผ่านมา แม่เริ่มส่งข่าวว่า น้ำท่วม ครั้งที่แล้วจำได้ว่าเป็นครั้งแรก น้ำไหลมาเร็วมาก แต่โชคดีที่ท่วมไม่มากนัก ไม่ถึงหนึ่งขั้นบันไดบ้านของแม่อยู่ที่จังหวัดแพร่

เป็นที่ทราบดีว่าทางภาคเหนือพื้นที่ย่อมเป็นที่สูง ภูมิประเทศโดยรอบจะเป็นภูเขาเสียเป็นส่วนใหญ่ จังหวัดแพร่เป็นจังหวัดที่ถูกล้อมรอบด้วยภูเขา ผู้คนจะอาศัยอยู่ในพื้นที่ที่เป็นบริเวณที่คล้ายกับแอ่งกระทะแม่เล่าว่า เช้ามืดของเมื่อวานนี้ แม่นอนหลับอยู่แต่ รับรู้สัมผัสว่ามีกลิ่นของโคลน เข้ามาปะทะจมูก แม่ไม่คิดว่าน้ำจะท่วม เพราะริมรั้วมีพนังกั้นน้ำจากคลองเล็กๆข้างบ้าน จากนั้นไม่นาน ก็มีเสียงของคุณน้าข้างบ้านมาตะโกนบอกว่า น้ำท่วม แม่จึงรีบลุกจากที่นอน ตอนนั้นเป็นเวลา ตีสี่พอดี แม่สังเกตเห็นว่าถนนหน้าบ้านมีน้ำไหลท่วมพนังกั้นน้ำเข้ามา และยังไหลแรงมากเสียด้วย หลังจากนั้นไม่นาน น้ำก็ไหลบ่าเข้ามาในบ้านของเรา ปีนี้ระดับน้ำขึ้นมาถึงหนึ่งขั้นบันได โชคดีกว่าอีกหลายแห่งที่โดนพิษของน้ำป่าเข้าไปเต็มๆ

แปดโมงกว่าของวันนั้น ที่บ้านของแม่ น้ำที่ท่วมนั้นได้แห้งเหือดลงแล้ว แต่ยังมีโคลนที่หลงเหลืออยู่ ไม่ใช่เศษโคลน แต่เป็นโคลนที่มากับน้ำ แน่นอน ความสูงของโคลนประมาณ20 เซนติเมตรเห็นจะได้ ติดตามข่าวน้ำท่วมที่แผ่ขยายไปหลายที่หลายแห่ง แต่ละแห่งก็มีซุงท่อนใหญ่ๆลอยมาตามกระแสน้ำที่เชี่ยวกรากรวมถึง หมู่บ้านในหุบเขาในจังหวัดแพร่ที่ดิฉันเคยไปเที่ยวและได้เล่ามาให้เพื่อนในบล็อคได้อ่านกันเมื่อปีที่แล้ว หมู่บ้านที่ว่านี้ อยู่ติดกับภูเขา คิดว่าน่าจะได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในครั้งนี้เต็มๆ เมื่อเช้าก่อนออกมาทำงาน ข่าวบอกว่าหมู่บ้านนั้นยังคงถูกตัดขาดจากโลกภายนอก แม่บอกว่ารีสอร์ทริมทาง ติดๆกับภูเขา ท่าทางจะฟื้นได้ยาก ถูกพิษของน้ำป่าเข้าไปเต็มๆเหมือนกัน

เมื่อหลายสิบปีก่อนพื้นที่ป่าจะเป็นป่าที่สมบูรณ์ ไม้สักต้นใหญ่ๆ จะมีให้เห็นทั่วไปในป่า เมื่อถึงหน้าฝน ต้นไม้จะเขียว ดูสดชื่น ตอนเป็นเด็กทางโรงเรียนมักจะพาไปปลูกป่า ในวันสำคัญต่างๆที่มีในช่วงฤดูฝน หลายปีผ่านไปต้นไม้ถูกทำลายมากขึ้นทุกวัน อาจจะมีสาเหตุมาจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ หรือความเห็นแก่ตัวของผู้มีอิทธิพลบางกลุ่ม ภูเขาที่ล้อมรอบพื้นที่ดังกล่าว ภูเขาก็ยังคงเป็นภูเขา ต้นไม้ที่เคยปกคลุมให้ร่มเงาแก่ผืนดินรวมทั้งสัตว์ใหญ่น้อยที่อาศัยอยู่ในบริเวณนั้น ต่างร่อยหรอลงไปทุกวี่ทุกวัน ผลกระทบก็เกิดขึ้นกับสิ่งแวดล้อมบริเวณนั้นมากขึ้น เป็นเงาตามตัว มิหนำซ้ำยังแผ่ขยายออกไปในวงกว้างมากยิ่งขึ้น ผลกระทบพวกนี้เกิดมาจากน้ำมือของมนุษย์เราทั้งสิ้น แต่บ่อยครั้งแทนที่กรรมจะสนองผู้ที่ได้กระทำ แต่กลับกลายเป็นว่า ผู้ได้รับกรรมนั้นเป็นผู้ที่ไม่ได้ก่อขึ้น

น่าเห็นใจผู้ประสบภัยจริงๆค่ะท้ายที่สุดนี้ ขอส่งความเห็นใจไปยังผู้ประสบภัยทุกครัวเรือน

ช่วยกันเถอะนะ พี่น้องไทย ..

11 Comments:

At 4:46 AM, Blogger PaTTaMONE said...

ส่งความเห็นใจไปให้ด้วยคนคะ...

เห็นด้วยกับที่เขียนคะ..
ที่เขียนไว้ว่า
"แต่บ่อยครั้งแทนที่กรรมจะสนองผู้ที่ได้กระทำ แต่กลับกลายเป็นว่า ผู้ได้รับกรรมนั้นเป็นผู้ที่ไม่ได้ก่อขึ้น"

หลายเหตุการณ์ในสังคมเรา..มักเป็นเช่นนี้..เสมอเลย..

เศร้าจริงๆคะ..

 
At 5:03 AM, Blogger PaTTaMONE said...

ลืมแนะนำตัวคะ..ชื่อปัทม์นะคะ..
หนูไปอ่านบลอคของพี่..จากที่ MBlog
แล้ว..สามารถลิงค์มาที่นี้ได้..
เลยตามมาที่นี้ด่อ เพราะบังเอิญว่าหนูมีบลอคที่นี้ด้วยนะคะ..

คงไม่รบกวน
และคงไม่รังเกียจนะคะ

พอดีเห็นว่า..บลอคที่นี้..
พี่จะคุยกะคุณ Someone เป็นส่วนใหญ่

หนู..รบกวนรึป่าวคะ..แฮะๆ แอบคิดมาก..

 
At 8:36 AM, Anonymous Anonymous said...

...ธรรมชาติรับได้เท่าที่จะรับ... จริงๆ
ก็คิดเป็นห่วงทุกคนที่รู้จักและไม่รู้จักทุกคนที่ประสบกับเหตุการณ์ในครั้งนี้ เห็นด้วยกับคุณเมย์ทุกอย่าง แต่บางครั้งการที่คนเราเข้าไปอยู่ในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงอย่างนั้นก็ต้องยอมรับในโอกาสที่จะพบกับสภาวะแบบนี้ได้ บ้านคุณแม่คุณเมย์อยู่แถวไหนจ๊ะ จะขึ้นไปเยี่ยมและไปขอสอบถามข้อมูลด้วย...คงต้องทำงานหนักอีกแล้ว หายไปคงไม่ว่ากัน :-)

 
At 8:45 AM, Anonymous Anonymous said...

ขอใช้สิทธิการถูกพาดพิงหน่อยนะจ๊ะคุณเมย์...
ยินดีรู้จักน้องปัทม์ด้วยคนนะจ๊ะ (แฮะ แฮะ เรียกคุณเมย์ว่าพี่ พี่ก็คงจะเป็นพี่ด้วยคนนะ)คุณเมย์คงจะดีใจมากจ๊ะที่มีเพื่อนมา comment ด้วยอีกหลายๆ คน พี่ก็กลัวว่าบ้านนี้จะเหงาเลยอยู่คุยกับบ้านนี้ดีกว่า อีกบ้านของคุณเมย์มีเพื่อนเยอะแล้ว และที่นี่ก็สดชื่น เย็นใจ สบายตา เพลงก็ไพเราะดีแล้ว มีเพื่อนเพิ่มอีกก็คึกคักดีจ๊ะ
อ้อ คิดมากไม่ค่อยดีน๊า..ไม่ดีกับสุขภาพนะจ๊ะ

 
At 12:17 PM, Blogger PaTTaMONE said...

คะ..
ขอบคุณคะ..
ยินดีที่ได้รู้จักคะ..

 
At 12:26 PM, Blogger hospitalgirl said...

สวัสดีค่ะน้อง pattamone ดีใจมากค่ะที่แวะเข้ามาเยี่ยมบล็อคนี้ ..เขียนอยู่สองที่ เนื้อหาเหมือนกัน แต่ที่ทิ้งที่นี่ไปไม่ได้เพราะ ชอบสีสันและลักษณะบล้อคที่สวยงามค่ะ...ซึ่งที่ผู้จัดการพี่ไม่มีความสามารถที่จะแต่งบล็อคได้ขนาดนี้ อิอิ ขอสารภาพตรงนี้เลย // จริงๆมาเปิดบล็อคที่นี่ทีหลังผู้จัดการนะคะ แต่ช่วงนั้นมีปัญหาบางประการ ที่ย้ายมาที่นี่ ....สำหรับเรื่องที่แซวพี่กับคุณ someone นั้น เห็นด้วย กับคุณ someone และขอบคุณคุณ someone ด้วย ที่มาแสดงความคิดเห็นที่นี่ เพื่อนที่โน่นคงตามมาคอมเมนท์ลำบากค่ะ เลยไม่มาที่นี่กัน..สำหรับพี่กับคุณ someone ไม่มีอะไรในกอไผ่ จริงๆค่ะ (ใช่มั้ยคุณ someone ) เพราะ เราต่างก็มีแฟนแล้ว เอิ๊กๆๆๆ// ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ..อ้อ!! จะตามไปเยี่ยมที่บล้อคของ คุณ paatamone ก็ไม่รู้จะไปที่ไหน คลิ๊กที่ชื่อแล้ว ไม่มีบล้อคปรากฏค่ะ แต่พอเข้าไปที่ msn ก็โพสต์คอมเมนท์มิได้ :)

 
At 12:35 PM, Blogger hospitalgirl said...

คุณ someone คะ ก่อนอื่นต้องขอบคุณที่เข้ามาเป็นเพื่อนคุยด้วยที่นี่นะคะ...(เหลือคุณ someone อยู่คนเดียว คนอื่นหายไปไหนหมดก็ไม่รู้ คิดว่าควไม่สะดวกที่จะตามมาคุยที่นี่..มั้ง) // ขอบคุณที่เป็นห่วงนะคะ..สำหรับเรื่องน้ำท่วมที่บ้าน ..ส่วนตำแหน่งของบ้านท่าทางหาลำบากค่ะ...อยู่ก่อนถึงพระธาตุช่อแฮ ประมาณ 1-2 กิโล (มั้ง) แต่ต้องเข้าไปในซอย ..ถ้าจะช่วยคนจริงๆ ช่วยคนที่ลำบากจริงๆเถอะค่ะ ที่ไม่มีที่อยู่ตอนนี้ สงสารและเห็นใจพวกเขาจริงๆ บ้านแม่น่ะ โดนน้อยนิดค่ะ //อย่างไรก็ตามขอบคุณในความปรารถนาดีจริงๆเลยนะคะคุณ someone :)

 
At 9:06 PM, Blogger PaTTaMONE said...

หนูไม่ได้ตั้งใจ..แซวนะคะ..
แต่ไม่รู้จาพูดยังไง...เพราะเห็นมีแต่คอมเม้นคุณ someone กะ พี่เมย์..

หนูก็เลยเขิล..ที่จะทิ้งคอมเม้นไว้...


อิอิ..

เรียกหนูว่า น้องปัทม์ ก็ได้คะ..ดู..ไม่ทางการเกินไป..

บลอคหนูไม่มีอะไรน่าสนใจหรอกคะ..แต่ถ้าจะไปเยี่ยมชมก็ได้คะ...

เพิ่งจะอกหักมาหมาดๆ ที่บลอคก็เลย..ไร้สาระมากๆ
รวมทั้ง..เพิ่งจะมาเขียนได้ไม่นานมานี้เองคะ..

หนูกะว่า..ถ้ามีโอกาส จะอ่านบลอคพี่ให้หมดเลย..หุๆ
ชอบคะ..

ออ นี้คะที่อยู่ บลอคหนู
http://pattamone.blogspot.com/

 
At 9:13 AM, Anonymous Anonymous said...

คุณเมย์
เป็นอย่างที่คุณเมย์ว่าจริงๆ ตอนนี้ยังไม่มีอะไรในกอไผ่จริงๆ แต่ถ้าคุณเมย์ว่างเมื่อไหร่ก็ไม่แน่ 555 เอิ๊ก เอิ๊ก อ่ะ ล้อเล่นน่ะ..แล้วคุณเมย์มาเหมาว่าเราต่างมีแฟนแล้วได้ไง..เรตติ้งตกหมดเลย 555!! ขำขำนะ .. ยังหวงความโสด ห่วงเที่ยว และรักทำงานมากๆ อยู่ง่ะ
ไม่ได้บอกว่าจะไปช่วยล้างบ้านให้น๊า ว่าจะไปเยี่ยมขอข้าว-ขอน้ำทานต่างหากหล่ะ อิอิ// การช่วยเหลือก็คงจะช่วยเท่าที่ช่วยได้ในตอนนี้ แต่อาจจะมีอย่างอื่นที่พยายามจะทำได้อย่างที่ตัวเองถนัดดีกว่า ตอนนี้คงจะยังไม่ขึ้นไป หลังจากนี้คงมีโครงการเดินทางแน่ เหมือนที่ไปเขาคิชณกูฎ วังชิ้น น้ำก้อ-น้ำชุน และบ้านแม่แรก..
ป.ล.เพื่อนๆ ที่เข้ามาอ่าน เข้ามาทิ้งข้อความไว้เถอะนะ ไม่ต้องเขินเพื่อนๆ กันทั้งนั้น ไม่อย่างนั้น เราจะเขินไม่กล้าเขียนซะเอง :-)

 
At 9:06 PM, Blogger hospitalgirl said...

สวัสดีอีกครั้งค่ะน้องปัทม์ พี่ว่าเรื่องการเขียนเนี่ย..พอวัยมันมากขึ้นประสบการณ์ชีวิตมากขึ้น สาระในชีวิตมันก็มากขึ้น(มั้งคะ)แต่บ่อยครั้งที่ขึ้นอยู่กับอุปนิสัยของผู้เขียนอีกนั่นแหละ งานเขียนก็สะท้อนนิสัยของผู้เขียนออกมา ใครบ่นมากก็จะเขียนออกมาเป็นข้อความที่ยาวยืด (อย่างพี่เป็นต้น อิอิ) แต่ถ้าใครที่พูดน้อย..ต่อยหนัก งานเขียนก็จะออกมาเป็นอย่างนั้นก็ได้อีกเหมือนกัน แต่บางครั้ง งานเขียนของบางคนก็ตรงกันข้ามกับอุปนิสัยของผู้เขียนก็ได้เหมือนกันนะคะน้องปัทม์ บางคนอาจจะพูดน้อย แต่ก้เขียนมาก....5 5 5 ยังไงก็เดาไม่ค่อยถูก พี่ก็เรื่อยเปื่อยอย่างนี้แหละค่ะ ...ยังไงก็ดีใจที่เข้ามาคุยกันนะคะน้องปัทม์

 
At 9:47 PM, Blogger hospitalgirl said...

เห็นด้วยกับคุณ someoneนะคะ ที่บอกว่า คอมเมนท์มาเถอะ ถือว่าคุยกัน และเปลี่ยนทัศนะกัน ไม่มีอะไรเสียหายนี่คะ :) คนเขียนอย่างเมย์จะได้ดีใจด้วย ที่มีคนสนใจประเด็นเรื่องที่เขียน ...คุณ someone คะ..พื้นที่ที่คุณจะไปเยี่ยมน่ะ ไม่มีอันไหนที่เป็นบ้านแม่เลยค่ะ อิอิอิ

 

Post a Comment

<< Home