Friday, August 25, 2006

..สะพานที่ข้ามไป..




หนึ่งเดือนที่ผ่านมาเวลาใครโทร.มาหาดิฉันมักจะได้เสียงคนคุยกันอยู่ข้างๆ เกือบทุกครั้ง..


ลักษณะงานที่ทำอยู่เมื่อหนึ่งเดือนที่ผ่านมา จะมีแต่การประชุม เป็นส่วนใหญ่ บางวันก็ประชุมกลุ่มกันอยู่เคร่งเครียด บางวันก็หัวเราะกันอย่างสนุกสนาน
หลายครั้งที่ผู้ร่วมประชุมแชร์ประสบการณ์ชีวิตของตัวเองของตนให้คนอื่นๆฟัง พูดง่ายๆ ก็คือนั่งคุยกันนอกเรื่องนั่นแหละค่ะ


การนั่งคุยกัน ช่วงพักเป็นการสร้างสัมพันธภาพในหมู่เพื่อนร่วมงานได้ดีทีเดียว ( แต่อย่าทำบ่อยเกินไป มิฉะนั้นอาจจะไม่ได้งานได้การ ในวันนั้นๆได้)
สองสามวันก่อน ในช่วงที่เป็นเวลาพัก พี่ที่อยู่อีกกลุ่มมานั่งคุยด้วย พี่คนนี้เป็นรุ่นพี่อาวุโส ทีทำงานในองค์กรนี้มานานมาก ที่บอกว่านานมากดูจาก
อายุของเแกสิคะ อีก 2-3 ปีก็ถึงวัยเกษียณแล้ว บางครั้งพวกเราก็คุยเล่นกับแก ก็แหย่แกว่าเป็นท่านผู้เฒ่าของกลุ่ม แกน่ารักค่ะ อารมณ์ดี จึงเป็นที่รักของ
พวกเรามาก วันไหนที่พี่คนนี้ยังไม่เข้ามา แต่ละคนก็ถามหาแล้วว่าไปไหน


วันที่นั่งคุยกัน แกเล่าถึงประสบการณ์การทำงานให้พวกเราฟัง มีทั้งสุขมีทั้งทุกข์ ก้าวเข้าสู่ตำแหน่งสูงสุดขององค์กรก็เคยมาแล้ว ถูกปลดก็เคยมาแล้ว
ยิ่งช่วงวิกฤติเศรษฐกิจยิ่งแล้ว แกบอกผลงานแรกตอนที่ได้รบตำแหน่งคือ ต้องปลดพนักงานออก (lay off) จากองค์กรเกือบ 300 คน ถึงแม้ว่าจะไม่อยากทำ
แต่ก็ต้องทำ ยังมีเรื่องฟาดฟันกับ ผู้หลักผู้ใหญ่อื่นๆในองค์กร หลายครั้งหลายคลา จนพวกเราบอกว่า "ไม่น่าเชื่อว่าพี่จะเปรี้ยวอย่างนี้" ฟังแกเล่า ถึงชีวิต
แล้วนึกถึง แดจังกึม ยังไงยังงั้น โถ!! ต้องเจอกับพวกซังกุงตัวร้าย อยู่เนืองๆ


ประสบการณ์การทำงานที่แกเล่าให้พวกเราฟัง ทำให้รู้สึกปลงกับชีวิต การทำงานเหมือนกัน มีขึ้นก็มีลง อุปสรรคน่ะมีแน่ ขึ้นอยู่กับว่าตัวเราสามารถจะ
ฝ่าฝันอุปสรรคเหล่านั้นไปได้มากน้อยแค่ไหน หลายคนที่เปลี่ยนแผนกหรือย้ายที่ทำงาน อาจมีความคับข้องใจในที่ทำงานเก่า ที่แน่นอนคือ บางคนก็ยัง
ไม่รู้ทิศทางที่แน่นอนของที่ทำงานใหม่ที่เพิ่งย้ายมา (รวมทั้งตัวของดิฉันเอง) มีเพื่อนคนหนึ่งแชร์ประสบการณ์ของเธอให้ฟังว่า มีผู้ใหญ่สอนไว้ การทำงาน
หรือดำเนินชีวิตไปข้างหน้า เปรียบเสมือนการเดินไปเรื่อยๆ บางหนทางกว่าเราจะเดินไปถึง ก็ต้องอาศัยการข้ามสะพาน ดังนั้นเวลาที่ข้ามไปถึงที่หมายแล้ว
เราไม่ควรที่จะเผาสะพานเดิมทิ้ง


เพราะ ไม่แน่ เราอาจจะต้องหันกลับไปเดินทางเดิมอีก..ก็เป็นได้


จริงมั้ยคะ

( ภาพ : Waterloo Bridge โดย Mc. Innerney Gene )



6 Comments:

At 8:00 AM, Anonymous Anonymous said...

ในการทำงาน อุปสรรคเป็นสิ่งท้าทายให้เราได้พิสูจน์ความสามารถ ในระหว่างนั้นก็ต้องใช้กำลังหลายด้านในการฝ่าฟัน กำลังใจก็เป็นสิ่งที่สำคัญที่ผลักดันให้ผ่านพ้นไปได้ ... เป็นกำลังใจให้นะ :-) // กำลังข้ามสะพานอยู่เหมือนกัน ...เอ้า เดินต่อไป สู้ สู้!!

 
At 8:59 AM, Anonymous Anonymous said...

ทุกสะพานต้องมีคนร่วมสร้าง ใครจะทำลายสิ่งที่เรามีส่วนร่วมได้ล่ะ.. จริงมั้ย

 
At 9:37 PM, Blogger PaTTaMONE said...

ส่วนหนู..ยังหาสะพานที่จะข้ามไป..ไม่เจอเลยค่ะ..

เป็นกำลังใจให้พี่เมย์นะคะ.. ^.^

 
At 7:59 PM, Blogger hospitalgirl said...

คุณ someone คะ..วังเดินตกสะพานนะเออ อย่าเหม่อนะ อย่าเหม่อ 5 5 5 // ขอบคุณ สำหรับกำลังใจค่ะ :)

 
At 8:00 PM, Blogger hospitalgirl said...

จริงค่ะคุณ Anonymous...กรุงโรมก็ไม่ได้สร้างขึ้นได้ภายในวันเดียวนี่นา ฉันใดก็ฉันนั้น อิอิ สะพานก็เหมือนกัน..จะวันเดียวหรือหลายวัน ต้องคนละไม้ คนละมือ ..เนาะ :)

 
At 8:02 PM, Blogger hospitalgirl said...

ขอบคุณมากนะคะน้องปัทม์..สำหรับสะพานของน้องปัทม์ พี่ว่า..ทุกก้าวย่าง เหมือนถนนค่ะ... บางสายมีลำธาร แม่น้ำ หรืออะไรก็ตามที่เปรียบเสมือนอุปสรรค...เดินต่อไปนะคะ..เดี๋ยวก็ต้องข้ามสะพานเหมือนกัน..เดินอย่างระมัดระวังด้วยนะคะ.เป็นกำลังใจให้เช่นกัน :)

 

Post a Comment

<< Home