Sunday, August 13, 2006

..ความสุข..


ผ่านวันแม่ไปหนึ่งวัน

อันที่จริงแล้ว สิบสองสิงหา เป็นวันแม่แห่งชาติ แต่อย่างไรก็ตาม สำหรับดิฉันแล้ว ยกให้ทุกวันเป็นวันแม่

เมื่อวานนี้ถึงแม้จะไม่มีโอกาสไปกราบแม่ของตัวเอง ได้แต่ส่งเสียงตามสายไปหาแม่ แต่ก็มีโอกาสติดสอยห้อยตามคนใกล้ตัวไปคารวะคุณพ่อคุณแม่ของคนใกล้ตัว ครอบครัวเป็นอะไรสำคัญสำหรับดิฉันมาก ภาพที่เห็นเบื้องหน้าคือคนที่เป็นพ่อ แม่ลูกนั่งคุยกันอย่างมีความสุข และตัวเราเองได้มีโอกาสเข้าไปนั่งใกล้ๆกับพวกเขา เป็นส่วนหนึ่งในวงสนทนา แค่นั้นก็รู้สึกปลาบปลื้มใจมากแล้ว

ตอนที่เราเข้าไปในบ้าน คุณพ่อของคนใกล้ตัว กำลังพักผ่อนอยู่ คนใกล้ตัวของดิฉันก็เข้าไปปลุก บังเอิญที่คุณแม่ลงมาข้างล่างพอดี เลยคว้าเอาคนใกล้ตัวเข้าไปหอมแก้มซ้ายทีขวาที ภาพที่ดิฉันเห็นแต่ละภาพในบ้านหลังนี้เป็นความทรงจำที่ประทับใจ ยิ่งตอนที่ท่านทั้งสอง เล่าเรื่องสมัยเด็กๆ ของคนใกล้ตัวให้ฟังยิ่งแล้ว ฟังไปยิ้มไป แล้วก็หัวเราะไปด้วย

เย็นวันนั้น หลังจากรับประทานอาหารเย็นกับครอบครัวของคนใกล้ตัวแล้ว พวกเราก็ขอแยกกลับ ก่อนกลับ ผ่านไปบริเวณถนนราชดำเนิน พวกเราเพลิดเพลินกับการดูความสวยงามของไฟประดับตามถนนหนทาง รู้สึกสุขใจ อิ่มเอมกับความสุขในวันแม่ และเห็นสีหน้าของแม่ก็รู้สึกว่าแม่อิ่มเอมเหมือนกัน

ความสุขเกิดขึ้นได้ แล้วก็มีสิ่งที่ทำลายความสุขในวันนั้นได้เช่นกัน ดิฉันเห็นพวกที่ขับขี่มอเตอร์ไซด์กวนเมือง ไม่แน่ใจว่ากี่คัน เพราะนับไม่ทัน กลุ่มใหญ่เชียวค่ะ ขับขี่ไม่สุภาพ หมวกกันน็อคก็ไม่ใส่ ไม่เข้าใจว่าทำไมมากวนเมืองในวันแม่ ตามแยกมีตำรวจดักจับเหมือนกัน คิดว่าคงจับไม่ทันหรอกค่ะ เพราะตำรวจในป้อมตำรวจมีเพียงหนึ่งคน แต่มอเตอร์ไซด์มาเป็นแก๊งค์

พอพวกเขาเห็นตำรวจแล้วเห็นเพื่อนถูกจับไปหนึ่งคัน คงคิดหาทางหนีทีไล่ อยู่ๆ คงจอดกันโดยกระทันหัน มอเตอร์ไซด์ไปเกี่ยวกัน หรืออะไรก็ไม่ทราบได้ มีคันหนึ่งล้มลง และคันที่ตามหลังก็เข้ามาชนพอดี แต่ไม่แรงนัก แทบจะทับเอาเพื่อนข้างหน้าเลยทีเดียว ดิฉันขับรถสวนพวกเขาไปพอดี ดีที่ไม่เกิดเรื่องน่าสลดใจขึ้นต่อหน้าต่อตา จากนั้น ก็ไม่รู้ว่าเหตุการณ์เป็นอย่างไรต่อไปสำหรับคืนวันนั้น เห็นแล้วแย่นะคะ คิดตามเลยค่ะว่า พวกเขาเอาแม่ไปไว้ไหนกัน แล้ววันที่ควรใช้เวลากับแม่ ทำไมเอาเวลามากวนเมืองอย่างนี้ เฮ้อ!!

แย่นะคะ ในสิ่งที่พบที่เห็นมา แล้ว สิ่งที่คิดไปตามไปด้วยก็คือ การที่เราเติบโตขึ้นมา เวลาผ่านไปทุกวันๆ การใช้เวลาอยู่กับผู้ให้กำเนิดเราก็น้อยลงไปทุกวี่ทุกวัน นานๆ ครอบครัวจะได้มีเวลามาพบหน้าค่าตากันสักครั้ง สิ่งเหล่านี้พบเห็นได้เป็นปกติในสังคมปัจจุบัน ดิฉันว่าเวลาเหล่านี้มีค่ามากเลยนะคะ เรายอมรับกันไหมว่า เรามัวแต่แสวงหาอะไรก็ไม่รู้

ซึ่งสิ่งเหล่านั้น มันไม่ใช่ความสุขที่จีรังเลย

( ภาพ : Mother And Child โดย Carl Holsoe )


2 Comments:

At 8:47 AM, Blogger someone said...

:-) คิดว่าจะอ่านอย่างมีความสุขไปทั้งเรื่องซะอีก ...พวกแก๊งค์ฯ เขาคงไม่มีความรักให้กับคนอื่นหรอกเนอะ มีแต่ความสะใจของตัวเองเป็นที่ตั้ง

 
At 2:36 PM, Blogger hospitalgirl said...

เบื่อนะคะ พวกแก๊งค์นี้ เมย์ล่ะเบื๊อ เบื่อนะคะคุณ someone แต่เลี่ยงไม่ได้ ที่จะเจอบนท้องถนน

 

Post a Comment

<< Home