Friday, March 24, 2006

..บริจาคเลือด..



กรี๊ดดดดด!!

เสียงคนไข้คนหนึ่งร้องขึ้นมา ตอนที่ดิฉันจิ้มเข็มลงไปที่หลังมือของเธอค่ะ ไม่ใช่แค่กรีดร้อง แต่ขาของเธอถีบไปมาอีกต่างหาก

บรรยายแบบนี้ หลายคนคงนึกว่า เป็นคนไข้ที่ยังเด็กๆ แต่หาใช่เช่นนั้นไม่ ตัวเลขที่บ่งบอกอายุของเธอนั้น ถือได้ว่าอยู่ในช่วงของวัยกลางคนแล้ว อายุมากกว่า ดิฉัน เกิน 10 ปีด้วยซ้ำ เธอคนนี้ร้องจนดิฉันตกใจ แต่ก็ต้องควบคุมสติ เพื่อให้ บรรลุจุดมั่งหมายคือ ให้เข็มที่แทงลงไปนั้น เข้าไปในเส้นเลือด ไม่ได้ออกมานอกเส้นเลือด

หากควบคุมสติไม่ได้และตกใจไปกับอาการของคนไข้ที่อยู่ตรงหน้า มือของเราอาจจะสั่น และอาจทำงานชิ้นนั้นต่อไปไม่ได้แน่นอน ไม่ใช่ว่าดิฉันโหดนะคะ แต่จำเป็น ต้องปฏิบัติเช่นนั้น เนื่องจากคนไข้จำเป็นต้องได้ยาที่ให้ทางเส้นเลือดต่อไป จริงๆ เส้นเลือดเดิมที่เคยให้ยาไปแล้วนั้น เริ่มบวมแดง ขืนให้ต่อไป บริเวณนั้น อาจเกิดการอักเสบตามมาได้ หรือที่เรียกกันว่า phlebitis

ตัวดิฉันเองไม่ใช่ว่า ไม่เคยถูกเข็มแทงลงไปเหมือนคนไข้คนนี้ อันที่จริงมีประสบการณ์ดังกล่าวอยู่หลายครั้ง ไม่ว่า ตอนที่เปลี่ยนสถานภาพเป็นคนไข้ ดิฉันก็เคยถูกแทงเข็มเข้าเส้นเลือด ไม่ว่าจะเป็นการให้ยา หรือให้น้ำเกลือก็ตาม แต่ด้วยความที่เป็นคนที่ค่อนข้างอดทน จึงเก็บอาการ เหล่านี้ไว้ได้

บางคนอาจจะยังจำได้ ตอนที่เคยเล่าว่า เคยแทงเข็มเพื่อให้น้ำเกลือแก่คนใกล้ตัว ของดิฉันเองตอนที่ป่วย แล้วต้องเข้าโรงพยาบาล ตอนนั้น ก็ไม่ได้ยินเสียงร้องออกมาจากปากเลย (อาจจะด้วยความกลัว หรือตกใจจนช็อค อิอิ ล้อเล่นค่ะ) หรือไม่ก็เพื่อนที่ทำงาน เคยไหว้วานให้ฉีดยาให้ ดิฉันก็ทำ แทบทุกคนบอกว่า ไม่รู้สึกอะไร แต่ดิฉันงงกับอาการของคนไข้

วันนี้ก็ไปบริจาคเลือดมา ตามกำหนดค่ะ ครั้งที่22 แล้ว คนที่เคยไปบริจาคเลือด คงเห็นเข็มที่เจ้าหน้าที่ ทิ่มแทงลงไปที่แขนของเรา เข็มนั้นเป็นเข็มเบอร์ใหญ่พอสมควร ไม่เช่นนั้นแล้ว เม็ดเลือดอาจผ่านทะลุลงไปยังถุงรับเลือดไม่ได้ อาจจะเกิดการแตกตัวเสียก่อน ไม่มีประโยชน์ค่ะ

วันนี้เป็นวันศุกร์ แปลกใจที่ไม่ค่อยมีคนมาบริจาคเท่าไรนัก ไม่ต้องหยิบบัตรคิวอีกต่างหาก ถามเจ้าหน้าที่แถวนั้น ได้รับคำตอบว่า ไม่แน่นอน บางวันคนมาก บางวันคนน้อย แล้วแต่จังหวะ แต่อย่างไรก็ดี ทางสภากาชาด ก็ต้องการเลือดที่จะใช้ในผู้ป่วยที่จำเป็นต้องได้รับเลือดอีกมากค่ะ

ถ้าร่างกายใครพร้อม ดิฉันเชิญชวนให้ไปบริจาคเลือดกันนะคะ

ไม่ต้องกลัวเข็มหรอกค่ะ เจ็บไม่มาก ทนกันได้แน่นอน ขอรับรอง


( ภาพ : Sunflower โดย Barton Dawna )

7 Comments:

At 5:37 PM, Blogger Jess said...

ขอบคุณสำหรับบทความดีๆค่ะคุณซาแน๊กซ์ ..วันนี้เจสมาเยี่ยมคุณ xanaxแต่เช้าเลย มาแปะข้อความและความคิดถึงไว้คนแรกค่ะ .. บ้านสวยและบรรยากาศร่มรื่นน่านอนจังเลย แบบนี้ต้องเข้ามาเดินเล่นบ่อยๆซะแ้ล้ว ..อิอิ ... มีความสุขกับค่ำคืนวันท้ายสัปดาห์ที่เมืองไทยนะคะ .. คิดถึงเสมอค่ะ :)

 
At 8:02 PM, Anonymous Anonymous said...

เคยไปบริจาคกะกาชาดที่นี่มาเหมือนกันครับ เข็มที่นี่ใหญ่กว่าที่เมืองไทยอีกอ่ะ ก่อนจะเจาะเค้าจะมีคนมาถามเก็บข้อมูลส่วนตัวเรา คำถามก็ฟังรู้บ้างไม่รู้บ้าง แต่ที่ฮามากคือ เราจะตอบว่าใช่หมดก็ไม่ได้ เพราะมีคนเตือนไว้ว่ามันมีคำถามลวงไว้ว่าคุณเป็นรักร่วมเพศหรือเปล่าด้วยอะครับ ตอบใช่หมดนี่เป็นเรื่องเลย 555555

 
At 8:56 AM, Blogger hospitalgirl said...

สวัสดีค่ะคุณเจส..ดีใจจังที่คุณเจสแวะมาที่นี่ค่ะ เมย์ไม่ค่อยได้ไปที่เว็บผู้จัดการแล้วค่ะช่วงนี้..ไม่อยากไปสัมผัสไอร้อนที่นั่น 5 5 5...อากาศข้างร้อนร้อนจะตายอยู่แล้ว กลัวร่างกายสู้ไม่ไหวค่ะ ขออยู่ในบรรยากาศสงบๆดีกว่า...จริงๆชอบบทความของคุณเจสมากเลยนะคะ ดีใจที่พบว่าคุณเจสเขียนที่นี่ด้วย แวะเข้าไปแล้วค่ะ ............เมย์เขียนที่นี่ มาเกือบ2เดือน แต่ยังไม่ค่อยรู้วิธีใส่รูปใน profile ของตัวเองเลย เฮ้อ!! ยังอ่อนหัดมากเลยนะคะ...

 
At 9:21 AM, Blogger hospitalgirl said...

คุณ lonelyheart คะ...เรื่องที่บอกว่า สอบถาม โดยใช้คำถามหลอกๆ ที่บ้านเราก็มีนะคะ..ใช่/ไม่ใช่..ต้องตอบแบบมีสติค่ะ เดี๋ยวโดนหลอก..มีแบบที่คุณ lonelyheart บอกไว้เหมือนกันค่ะ อิอิ...แล้วเรื่องขนาดของเข็ม..ทำไมบอกว่าเข็มที่นั่นใหญ่กว่าที่เมืองไทย..เคยเอามาเทียบกันเหรอคะ อิอิ..เมื่อก่อนเมย์เคยได้ยินว่า เข้าฉีดยาชาก่อนที่จะแทงเข็มด้วย แต่เดี๋ยวนี้ไม่มีแล้ว ใช้แทงสดๆกันเลย แต่ก็เจ็บแบบ....สีทนด้ายยยย ค่ะคุณ lonelyheart 5 5 5

 
At 9:23 AM, Blogger hospitalgirl said...

คุณลุงคะ...ที่บอกว่าวัยกลางคน เธออายุ48 แล้วค่ะ แต่เมย์ 34นี่นา มากกว่า10ปีมั้ยล่ะคะ (ไม่ได้บวกลบเลขผิดนะคะ อิอิอิ )..ท่าทางคุณลุง อาจจะเคยดดนสายตาที่เชือดเฉือนของคุณพยาบาล แน่เลย คุณลุงเลยกลัวสายตามากกว่า ...เชือดเฉือน แล้วเจ็บปวดดดด...ใช่ไหมเอ่ย...เอิ๊กๆๆๆ

 
At 2:05 PM, Anonymous Anonymous said...

คนที่กลัว ก็กลัวฝังใจล่ะจ๊ะ
เป็นคนกลัวเข็มเหมือนกัน แต่ถ้าจำเป็นก็คงหลับตาซะก็ไม่เห็นแล้วเนอะ เคยไปให้เลือดมาเหมือนกัน แต่แค่ครั้งเดียวสมัยเรียน ทหารที่ไปรบศึกร่มเกล้าขาดเลือดมาก แต่พอ 3 เดือนไปอีกทีก็ไม่ได้แล้ว บอกว่า เลือดชั่วใช้ไม่ได้ 555!!! ;-) สงสัยว่าเลือดจะเจือจาง แต่จุดไฟติดด้วยแอลกอฮอร์ อิอิ เลยเปลี่ยนเป็นบริจาคร่างกายแทน :-)

 
At 3:29 PM, Blogger hospitalgirl said...

บริจาคร่างกายก็กุศลแรงนะคะคุณ someone..จิตใจดีก็ดีแล้วล่ะค่ะ นับถือๆ สำหรับเรื่องสุขภาพ ก็ดุแลหน่อยละกัน ถือว่าบริจาคร่างกายแล้ว ก็ต้องถนอมสุขภาพตัวเองเหมือนกันนะคะ

 

Post a Comment

<< Home