Thursday, April 20, 2006

..ครั้งหนึ่งในชีวิต..




ผ่านพ้นไปซะที ..

ที่บอกว่าผ่านพ้นนั้นก็คือ โครงการ OD ขององค์กร คิดว่าหลายคนคงไม่รู้ว่า เจ้า OD นี้คืออะไร OD มาจากคำว่า Organization Development ค่ะ เรียกให้ง่ายๆ ก็คือการสัมมนานั้นเอง แต่ดิฉันขอเรียกว่า "เข้าค่าย"ดีกว่านะคะ เพราะ มันดูเหมือนการเข้าค่ายลูกเสือสมัยที่เรายังเป็นเด็กๆนั่นแหละค่ะ ลองหลับตานึกภาพในตอนนั้นดูสิคะ

ที่ต่างกันอย่างเห็นได้ชัดก็คือ วัยที่แตกต่างกันแน่นอน จับเด็กไปเข้าค่ายกับจับคนแก่ไปเข้าค่ายนี่มันคนละเรื่องกันเลย

การจัดสัมมนาโดยทั่วไปนั้น ส่วนใหญ่ จะจัดขึ้นทีห้องประชุมของโรงแรม แต่สำหรับองค์กรที่ดิฉันทำงานอยู่ไม่ใช่แบบนั้นค่ะ แต่ไปจัดในค่ายทหาร ซึ่งรุ่นของดิฉันเป็นรุ่นสุดท้าย นี่ก็เพิ่งกลับมาเมื่อเย็นวานนี้เอง

ก่อนที่จะได้ไปเข้าค่ายในครั้งนี้ ทุกคนจะมีความรู้สึกเหมือนกันไปหมด นั่นคือ กลัว และไม่อยากไป แค่ได้ยินว่า เป็นค่ายทหารนี่ก็ขนลุกแล้วค่ะ

เอาล่ะ เล่าเลยดีกว่า ว่าดิฉันไปเจอะเจอกับอะไรบ้าง

วันแรกที่ไปถึง หลังจาก Brief ประมาณ ครึ่งชั่วโมง ครูฝึก (ทหารทั่งนั้น) ก็จับพวกเราออกไปกลางสนาม ฝึกการรับคำสั่ง ทวนคำสั่ง คำพูดที่ติดปากพวกเราก็คือ "ทราบ" ยังไม่พอค่ะ ต้องคะเบ็งเสียงให้ดังๆด้วย มิฉะนั้น ก็จะถูกทำโทษ การทำโทษกลางแดดเปรี้ยงๆ จะมีทั้งท่าตายอย่างเขียด กางมุ้งมั่ง (นอนหงาย แล้วยกแขนขึ้นมาทั้งสองข้าง และนอนกางขานั่นแหละค่ะ ) หรือไม่ก็ทำท่าสะพานโค้งให้เพื่อนลอดใต้ตัวเรากลางเปลวแดดของเดือนเมษา ที่ร้อนระอุอย่างเหลือเกิน หลายคนถูกหามออกไปในที่ร่ม เป็นลมท่ามกลางเปลวแดด แต่ดิฉันอึดค่ะ แค่หายใจไม่ทันไปพักนึง แต่ก็ไม่เป็นไร..ศรีทนได้!!(ไม่น่าเชื่อ)

แต่ละรุ่น ของการมาเข้าค่ายแบบนี้ รุ่นหนึ่งมีพนักงานประมาณ200 กว่าคน แบ่งเป็นกลุ่ม กลุ่มละ20-22คน มีฐานฝึกประมาณ 10 ฐาน ก่อนที่จะเข้าไปแต่ละฐานก็ต้องเอา อะไรก็ไม่ทราบสีดำๆ มาทาหน้าให้ทั่วซะก่อน และก็ไปทำกิจกรรม ทุกฐาน มีการฝึกคิด และจำกัดเวลาอยู่ตลอด ต่างก็ทำสำเร็จบ้างไม่สำเร็จบ้าง มีทั้งลุยน้ำ กลิ่งบนดินบนทราย ลอดท่อน้ำใต้ถนนก็มี คิดดูสิคะ ท่อระบายน้ำทิ้งเหม็นๆนั่นแหละค่ะ นี่แหละเด็ดมาก เหม็นก็เหม็น ไม่รู้รอดมาได้ยังไง

เข้าไปบางฐาน เวลาทานอาหารกลางวันพอดี ต้องหุงข้าวรับประทานกันเอง อุปกรณ์ก็คือ หม้อข้าวของทหารนั่นแหละค่ะ ต้องไปก่อฟืนกันเอง จากนั่นก็ต่อแพ ไปกลางสระบัวกลางสระน้ำลึกประมาณ 150 ซ.ม. เห็นจะได้ (เพราะตอนที่ยืน ระดับน้ำ ราวๆจมูกเห็นจะได้ ) แพล่ม (เอาถังน้ำมันสองถึงมาผูกเชือกให้เป็นแพค่ะ นั่งยังไง มันก็ล่ม ดังนั้น ก็ต้องเดินข้ามไปเอง ทั้ง 22 คนนั่นแหละ)

ลงน้ำเสร็จไปฐานต่อไป ก็ถูกทำโทษ ให้ลองไปหมอบแล้วก็กลิ้งตัวอีกค่ะท่านผู้ชม ทุกลักทุเลเหลือเกิน ไปอย่างนี้ไปทั้งวัน กลับมาก็ต้องรีบอาบน้ำ วิธีการอาบน้ำก็ ต้องใส่ผ้าถุงไปตักน้ำในอ่างอาบ อาบน้ำแต่งตัวแล้วมาเข้าแถวให้พร้อมเพรียงกัน ก็ให้เวลาที่จำกัดสุดๆ คิดดูว่า ตัวเปื้อนโคลน หน้าดำ ขนาดนั้น อาบน้ำ สระผม คงไม่เกลี้ยงแน่นอน แต่ช่างเหอะ เวลามีจำกัด กลับมาค่อยมาจัดการอีกที กิจกรรมวันนั้นก็มีถึงกลางคืน จนกระทั่ง ได้เวลาพักผ่อน

เรือนนอนของพวกเรา ก็คือเรือนนอนแบบทหารเกณฑ์นั่นแหละค่ะ ไม่เคยกางมุ้งก็ต้องกาง ร้อนก็ร้อน ดีที่เอาแป้งเย็นติดไปด้วย ถึงเวลานอนก็ต้องนอน ต้องปิดไฟนอน กางมุ้งอิท่าไหนก็ไม่ทราบ ยุงเข้าไปกัดค่ะ ก.ย.15 ก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลย ทาแขนทาขา มันก็ไปกัดที่อุ้งเท้า ทาเท้า ก็กัดที่เอว พอทาเอว ก็ไปกัดที่ใบหน้าอีกแน่ะ ยุงนี่มันดุจริงๆ ให้ตายเหอะ สรุปคืนนั้น ก็หลับๆตื่นๆทั้งคืน

ถูกปลุกตี 5ครึ่ง ล้างหน้าแปรงฟัน เข้าห้องน้ำ ภายใน15นาที แล้วต้องไปเข้าแถวออกกำลังกายตอนเช้า เรียบร้อยแล้วก็ให้เวลา ทำกิจวัตรประจำวัน อีกครึ่งชั่วโมงแล้ว ต้องไปเข้าแถว เพื่อไปรับประทานอาหารเช้าค่ะ คราวนี้ ต้องกินแบบทหารเลยล่ะ "กินแบบฉาก" ข้าวก็ไม่ให้เหลือสักเม็ด ยกเก้าอี้ วางเก้าอี้ ไม่ให้มีเสียง ไม่งั้นถูกทำโทษ ผลไม้ในถาดดั๊น เป็นกล้วยหอม ดิฉันเป็นคนที่ไม่กินกล้วยหอมซะด้วยสิ เลยถูกทำโทษไปตามระเบียบ

น้ำตาเล็ดน้ำตาร่วงกันเลยค่ะ ทนอะไรก็ทนได้ แต่บังคับเรื่องกินนี่ ยังไง ศรีก็ทนไม่ได้จริงๆ อิอิ

ไปๆมาๆ ค่ายนี้ก็ผ่านไปได้ ด้วยดีค่ะ สิ่งที่ไม่เคยเจอะเคยเจอมาก่อนในชีวิต ก็ได้เจอที่นี่แหละค่ะ กลับมาก็ยิ้มได้ มันก็เป็นสิ่งที่ประทับใจและน่าเก็บไว้ในบันทึกแห่งความทรงจำในชัวิตด้วยแหละ บทเรียนบทหนึ่ง ที่เราได้พบประสบมา ถึงแม้จะลำบากแค่ไหน ก็ผ่านมันไปได้ สิ่งที่ได้รับ ก็คือ ความสามัคคี ในหมู่คณะ และที่สำคัญก็คือ การฝึกความอดทน ซึ่งดิฉันเอง ก็สามารถเอาไปใช้ในงานบริการ ได้อย่างแน่นอน

ตอนนี้ระบมและปวดไปหมดทั้งตัว แต่อย่างไรก็ตาม .. สิ่งที่ได้มาก็คุ้มค่ากับความลำบากจริงๆ

อยากลองกันบ้างไหมคะ ?.. อิอิอิ

( ภาพ : Garden Fence โดย Barton Dawna )

2 Comments:

At 7:53 PM, Anonymous Anonymous said...

อ่านแล้วอดยิ้มไม่ได้เลยครับ นึกถึงตอนตัวเองเรียน รด. ยังไงยังงั้น คุณเมย์ยังดีนอนเรือนนอน ของผมนี่นอนในเต๊นท์หนังควาย นอนก็ไม่ได้ถอดรองเท้าเพราะเอาไว้ถีบพวกตุ๊ดหื่นๆ ที่กลางคืนชอบเข้ามามุดขอนอนด้วย หนุกหนานครับ แต่ที่ไปนี่สาวๆ หมดเลยนี่นา เอาครับครั้งหนึ่งในชีวิต นี่กลับมาตัวดำปี๋เลยสิครับเนี่ย ไอ้เราก็นึกว่ามีความสุขกับวันหยุดสงกรานต์นาน ฮ่าๆๆๆ

 
At 10:02 AM, Blogger hospitalgirl said...

สวัสดีค่ะ คุณ lonelyheart...จริงๆ เมย์ก็ไปเที่ยวช่วงสงกรานต์มานะคะ เหนื่อยมาก เหนื่อยจากการขับรถที่ใช้เวลาอันแสนจะยาวนานมากๆ รถติดค่ะ แต่หลังจากที่กลับมาจากสงกรานต์ เช้ามืดก็ต้องไป เข้าค่ายเลย ยังไม่หายเหนื่อย เลยเดี้ยง..หายไปซะหลายวัน 55 ส่วนฝึก ร.ด...เมย์ว่า วัยนั้น ยังเด็กไงคะ แต่เวลาผ่านไปหลายปี..แก่แล้ว สังขารไม่ให้แล้วล่ะค่ะ (เมย์ไม่เคยเป็น ร.ด.ด้วยล่ะคุณ lonelyheart)

 

Post a Comment

<< Home