Thursday, March 22, 2007

..Babel..


ทั้งๆที่ภาพยนตร์เรื่อง BABEL เข้าฉายนานพอสมควร จนเกือบจะลาโรงแล้ว ในฐานะคนดูคนหนึ่งก็อดที่จะพูดถึงไม่ได้…

เรื่องนี้กล่าวถึงเหตุการณ์ใน 4 ประเทศ คือ สหรัฐอเมริกา มอรอคโค เม็กซิโก แล้วก็ญี่ปุ่น และกลุ่มคนทั้ง 4 กลุ่มที่อยู่บนโลกใบเดียวกันนี้ กลุ่มแรกเป็นครอบครัวชาวอเมริกัน 4คนพ่อแม่ลูก ตัวพ่อกับแม่ ผู้กำกับทำให้ผู้ชมเข้าใจเอาเองว่าคู่สามีภรรยาคู่นี้กำลังมีปัญหากันอยู่ ตัวสามีพาภรรยาที่(ค่อนข้างเรื่องมากกับทุกๆเรื่อง) ไปเที่ยวที่มอรอคโคโดยทิ้งลูกๆให้อยู่กับพี่เลี้ยงชาวเม็กซิโก ที่บ้าน วันหนึ่งตัวพี่เลี้ยงจำเป็นต้องไปงานแต่งงานของลูกชายที่เม็กซิโก แต่หาคนดูแลเด็กทั้งสองไม่ได้ และพ่อแม่ของเด็กก็ไม่สามารถกลับมาจากมอรอคโคได้ เพราะแม่ของเด็กนั่งอยู่บนรถทัวร์ถูกยิง

อยู่ๆกระสุนลอยมาจากไหน คนที่นั่งอยู่ในรถทัวร์ทั้งหมดไม่มีใครทราบ มีแต่คนคิดว่าเป็นผู้ก่อการร้าย ไปๆมาๆ กลายเป็นปัญหาระหว่างประเทศซะนี่ คนดูหนังก็คงทายไม่ถูกถ้าผู้กำกับไม่ให้ดูฉากที่เด็กกำลังยิงปืน

กระสุนนัดดังกล่าวนั้นออกมาจากปากกระบอกของ ปืนไรเฟิลผ่านความร้อนแล้งของทะเลทรายในโมร็อคโค พุ่งทะลุกระจกหน้าต่างรถทัวร์ ก่อนจะไปฝังตัวอยู่แถวๆ กระดูกไหปลาร้าของนักท่องเที่ยวชาวอเมริกันในขณะที่เด็กสองคน กำลังถกเถียง กันว่ายิงโดนหรือไม่โดน แต่เด็กไม่ได้กลัวกันเลยว่าจะทำให้ผู้อื่นได้รับความเสียหาย ท้ายที่สุดเด็กสองคนและพ่อก็ต้องหนีตำรวจอย่างหัวซุกหัวซุน แต่เด็กคนที่ยิงนักท่องเที่ยวก็ไม่รู้อีกว่าตัวเองกำลังทำผิด

ในฐานะคนดู กำลังงงว่าเรื่องแบบนี้จะมีจริงในโลกรึเปล่า การที่ให้ปืนแก่เด็ก เพื่อจะยิงหมาในที่มารบกวนฝูงแพะที่เขาเลี้ยง เด็กไม่รู้ผิดชอบชั่วดี และไม่รู้ด้วยว่า สิ่งต่างๆที่เขากระทำนั้นเป็นสิ่งที่ผิด

บริเวณนั้นดูกันดารแห้งแล้ง ไม่มีโรงพยาบาล หญิงชาวอเมริกันที่บาดเจ็บถูกนำมาพักที่หมู่บ้านเล็กๆ บริเวณที่ไม่ไกลจากสถานที่เกิดเหตุนัก เพราะโรงพยาบาลอยู่ไกลมาก กว่าจะไปถึงก็คงเสียชีวิตกลางทาง กลุ่มนักท่องเที่ยวชาวอเมริกันที่ร่วมเดินทางมา ต่างก็ไม่ไว้ใจคนในหมู่บ้านนั้นนัก ไปๆมาๆ ก็ต้องทิ้งสามีภรรยาคู่นี้ไว้ในหมู่บ้าน ฉากนี้เห็นได้ชัดในเรื่องสัญชาตญาณการเอาตัวรอดของคน ไม่ว่าจะเป็นเชื้อชาติเดียวกันก็ตาม ต่างคนก็ต่างห่วงตัวเองมากกว่า ที่จะเห็นใจคนที่กำลังจะตาย

ปัญหาที่เกิดขึ้นขณะที่สองสามีภรรยารออยู่ในหมู่บ้านนั้นคือ การสื่อสาร แน่นอน การพูดกันคนละภาษาเป็นปัญหาในการมีปฏิสัมพันธ์ การไม่ไว้ใจคนแปลกหน้าก็เป็นเรื่องธรรมดาของมนุษย์ปุถุชน แต่ท้ายที่สุดแล้ว คนที่บาดเจ็บผ่านภาวะที่ทุกข์ทรมานจากการบาดเจ็บไปได้ ก็เนื่องมาจากความช่วยเหลือส่วนหนึ่งของหญิงชราชาวมอรอคโคที่ไม่สามารถสื่อสารเป็นภาษาเดียวกันกับชาวอเมริกันสองคนนั้นได้

ภาพตัดมาที่พี่เลี้ยงของเด็ก หาคนดูแลเด็กไม่ได้ ดังนั้นจำเป็นต้องพาเด็กชาวอเมริกันสองคนนั้นไปเม็กซิโกด้วย ปัญหาเกิดขึ้นตอนขากลับ หลานชายชาวเม็กซิโกเป็นคนขับรถ ดื่มแอลกอฮอล์มาด้วย พอถึงด่านตรวจบริเวณชายแดน ถูกตรวจหลายอย่าง เนื่องจากถูกตั้งแง่จากคนอเมริกันไว้แล้ว ว่าคนเม็กซิโกไม่น่าไว้ใจ ด้วยความกลัวชายหนุ่มคนที่ขับรถก็ขับหนี และจะเป็นต้องทิ้งผู้หญิงและเด็กไว้กลางทาง ซึ่งบริเวณนั้นเป็นทะเลทราย กว่าจะมีรถผ่านมาสามคนนั้นก็แทบแย่ โชคดีของเด็กที่มีคนช่วยแต่กลายเป็นทั้งโชคดีและโชคร้ายของพี่เลี้ยง โชคดีคือไม่ต้องตายอยู่กลางทะเลทราย โชคร้ายคือถูกเนรเทศกลับประเทศเม็กซิโก เพราะทำผิดกฏหมาย ทั้งๆที่ตั้งรกรากอยู่ที่อเมริกามา 16 ปีแล้ว

คนอีกกลุ่มหนึ่งก็คือชาวญี่ปุ่น ผู้ชายญี่ปุ่นคนหนึ่งเคยโปรดปรานการล่าสัตว์ เขาคนนี้เคยไปล่าสัตว์ที่มอรอคโค และมอบปืนไรเฟิลให้กับคนนำทางชาวมอรอคโค และคนนำทางคนนี้ก็เอาปืนกระบอกนี้ไปขายให้กับพ่อของเด็กที่ยิงนักท่องเที่ยวชาวอเมริกันคนนั้น

ชาวญี่ปุ่นคนนี้มีลูกสาวที่หูหนวกและเป็นใบ้ ไม่มีแม่คอยดูแล เพราะแม่เสียชีวิตไปแล้วตั้งแต่ตัวเองยังเด็ก เรามองเธอเพียงผิวเผินจะเห็นว่าเด็กคนนี้มีภาพลักษณ์ของสาวใจแตก คนดูอาจจะงงเหมือนดิฉันว่า ทำไมเด็กคนนี้ไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี หลายฉากทำให้คนดูตีความไปต่างๆนานา

ฉากของหนังแต่ละฉากไม่ได้ถูกเรียงลำดับไว้ หลายตอนผู้กำกับตั้งใจให้คนดูตีความเอาเอง

คนที่ไม่เคยได้ยินคำว่า Babel มาก่อนอาจจะไม่รู้ว่ามันคืออะไร จริงๆ Babel เป็นชื่อของหอคอยที่ถูกกล่าวถึงในพระคัมภัร์ของคริสตศาสนา (ปฐมกาล 9:11) เป็นหอคอยเทียมฟ้าที่มนุษย์สร้างขึ้นมาด้วยหวังว่าเราจะสูงส่งทัดเทียมกับพระผู้เป็นเจ้า

การกระทำดังกล่าวของมนุษย์ ทำให้พระเจ้าไม่พอพระทัย มนุษย์จึงถูกสาปให้ไม่อาจสื่อสารกันได้ ภาษาที่ใช้ถูกเปลี่ยนแปลงไป และมนุษย์ถูกพลัดพรากจากกันไปตามพื้นที่ต่างๆ ของโลกนับตั้งแต่บัดนั้น

หนังจบลงด้วยความหดหู่ ไม่ใช่ว่าหดหู่เพราะหญิงชาวอเมริกันเสียชีวิต ในเรื่องหญิงคนนี้มีชีวิตรอดในท้ายที่สุด แต่คนตายก็คือ เด็กชาวมอรอคโคคนที่เป็นผู้พี่ ไม่เฉพาะในเรื่องการตายที่ทำให้หดหู่ แต่ความไม่รู้ผิดรู้ชอบของคนที่ถูกเรียกว่า ‘เด็ก” นั้น ทำให้เราหดหู่ ไม่ว่าจะเป็นเด็กมอรอคโคหรือเด็กญี่ปุ่นในเรื่อง

ปืนที่อยู่ในมือของเด็กมอรอคโคนั้น เปรียบได้กับ ‘อำนาจ’ ที่อยู่ในมือของผู้ที่ไม่รู้

สุดท้ายแล้วอำนาจนั้นก็ย้อนกลับมาทำลายตัวผู้ไม่รู้เสียเอง
เศร้า !!!

( ภาพ : Garden Treasure โดย Garmesh )