..น้ำใจไทย..
หลังจากที่เกิดอุทกภัย ในสามจังหวัดภาคเหนือเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว..
แม่บอกว่าทางหน่วยราชการเอาถุงยังชีพพระราชทาน มาแจกจ่ายให้ราษฎรที่ประสบอุทกภัย จะมีรายชื่อบ้านแต่ละหลังที่สมควรได้รับสิ่งของ รวมทั้งบ้านของแม่ด้วย
เราจะเห็นว่าเมื่อมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น เมื่อมีของแจก ไม่เคยมีครั้งไหนที่แจกจ่ายได้ทั่วถึง บ้านของแม่ถูกน้ำท่วมเหมือนกัน แต่ระดับน้ำขึ้นมาเพียงหนึ่งขั้นบันไดเท่านั้น เรียกว่าแทบไม่เสียหายเลยด้วยซ้ำ ที่หนักหน่อยคือปริมาณโคลนที่แม่ต้องกำจัดให้ออกจากบริเวณบ้าน และ เมื่อเทียบกับบ้านอื่น จะเห็นว่าแค่นี้ มันเป็นเรื่องเล็กน้อยเท่านั้น บ้านที่อยู่บริเวณใกล้ๆกับบ้านแม่ ก็โดนไปหลังละนิดหลังละหน่อย
เมื่อหน่วยงานราชการเอาถุงยังชีพมาแจกจ่ายให้ แม่บอกว่าละอายใจที่จะรับ เพราะบ้านเราไม่ได้เดือดร้อนอะไร ถ้าให้มา แม่อยากจะเอาไปบริจาคต่อให้คนที่เดือดร้อนจริงๆ
การแจกจ่ายของบริจาค หรือแม่แต่ถุงยังชีพเอง ยังไม่สามารถแจกจ่ายไปให้ชาวบ้านได้ทั่วถึง ต้องให้ไปรับจากทางเทศบาลเอาเอง หมู่บ้านที่โดนน้ำท่วมเต็มๆ เช่นหมู่บ้านที่อยู่ในหุบเขา ไม่สามารถออกมารับของได้ และเทศบาลไม่สามารถนำไปแจกจ่ายได้ อาจจะเนื่องมาจากหลายๆสาเหตุ เช่นถนนถูกตัดขาดจากภายนอก เป็นต้น ลำบากสำหรับชาวบ้านต้องเดินเท้าออกมา
แม่ยังเล่าให้ฟังอีกว่า ถนนสวยๆ ที่เราเคยผ่านไป ครั้งที่ไปเที่ยวในหุบเขานั้นถูกกระแสน้ำพัด จนไม่เหลือสภาพความเป็นถนนสวยๆแบบที่เราเคยเห็น สะพานคอนกรีตที่แข็งแรง ถูกน้ำป่าพัดจนไม่เห็นเป็นสะพานอีกต่อไป รถหลายคันที่จอดที่รีสอร์ทข้างทาง ถูกแรงน้ำพัดจนคว่ำ
ช่วงที่เพิ่งเกิดอุทกภัยนั้น บริเวณที่ทำการของเทศบาล มีเฮลิคอปเตอร์ลำเลียงศพออกมา ศพแล้วศพเล่า เป็นที่รู้สึกหดหู่แก่ผู้พบเห็นเป็นอย่างมาก
ภาพข่าวเมื่อหลายวันก่อนก็เช่นกัน ดิฉันถามแม่บอกว่า เป็นจริงอย่างที่สื่อนำเสนอหรือไม่ ทำไมอ่างเก็บน้ำแม่มาน มีท่อนไม้ลอยมาเยอะขนาดนั้น แม่บอกว่า มีปนๆกันทั้งเศษไม้และท่อนไม้ แต่ท่อนไม้นั้นเป็นท่อนไม้ที่ถูกกระแสน้ำที่เชียวกราก ทำให้หลุดออกมาทั้งรากทั้งโคน รวมทั้งเศษไม้ไผ่ แล้วเศษอะไรต่อมิอะไรเยอะแยะ เหมือนเศษขยะ ภาพถ่ายนั้นถ่ายจากที่สูงด้วยซ้ำ
ขออนุญาต เขียนเรื่องการตัดไม้ทำลายป่าอีกครั้งหนึ่ง ดิฉันคิดว่าสิ่งเหล่านี้เป็นผลสืบเนื่องจาก มาหลายปีแล้ว ไม่ใช่แค่ปีสองปี ถ้าจะบอกว่า เป็นเรื่องของนายทุนที่ตัดไม้ ก็คงต้องย้อนกลับไปหลายปี ปัญหานี้เป็นปัญหาสะสมมายาวนาน ถือว่าเป็นปัญหาที่เรื้อรังแน่นอน อาจจะไม่ใช่แค่ปัญหาระดับชาติ ถ้าบ้านอื่นเมืองอื่นเป็น ก็เป็นปัญหาระดับโลกล่ะค่ะ
ปัญหาแบบนี้ หากจะโทษว่าเป็นยุคของใคร สมัยของใครก็คงไม่ใช่เรื่อง ถ้าเรามัวแต่มานั่งกล่าวโทษกันอย่างนี้ มันคงไม่เกิดประโยชน์ น่าจะหันหน้ามาช่วยกันแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นกันดีกว่า
หลายหน่วยงาน ทุ่มเท ช่วยเหลือชาวบ้านที่เดือดร้อน เห็นแล้วก็น่าชื่นใจ หลายหน่วยงานมีอาสาสมัครเข้าไปบรรจุของ ไม่แน่ใจว่าคนจ่ายแจกจะมีหรือไม่ บางที่มีแต่ของ แต่ไม่มีคนไปแจก ก็ลำบาก
การช่วยผู้ที่เดือดร้อน ควรจะช่วยให้ทั่วถึง และ เหตุการณ์ครั้งนี้ไม่ควรปล่อยให้เป็นปัญหาสืบเนื่องไปยาวนาน
เหมือนกรณีสึนามิ ที่เป็นกรณีตัวอย่าง เป็นต้น ..
หมายเหตุ : กองทุนสึนามิ หายไปไหนหมด ถ้าหากันเจอแล้ว ก็โปรดนำมาคืนชาวบ้านที่เดือดร้อนจริงๆ นะคะ ... รู้จักคำนี้กันไหมนี่ ... "บาป" !!
( ภาพ : Soft Winds โดย Pollera Daniel )